แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ น้ำท่วม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ น้ำท่วม แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ตระหนักคิดสักนิดว่าคุณทำอะไรอยู่..

เรื่องเล่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงจากครอบครัวหนึ่ง....แต่มิอาจเปิดเผยได้ หากไปตรงหรือคล้ายคลึงกับผู้ใด ผู้เขียนขออภัยไว้ ณ ที่นี้

หลังจากปี 2554 ที่มีน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในบางเขตของกรุงเทพ ที่ได้รับผลกระทบนี้ หลังจากน้ำลด หลายครอบครัวที่ต้องสูญเสียเงินทอง แรงกาย แรงใจ ในการฟื้นฟูที่อยู่ การงาน และสุขภาพกลับคืนมา...ครอบครัวนี้ก็เช่นกัน...

ครอบครัวนี้ประกอบกันด้วย พ่อ ลูกชาย และลูกสาว ซึ่งปกติแล้วในบ้านที่น้ำท่วม พ่ออาศัยอยู่กับลูกสาวเท่านั้น ส่วนลูกชาย แต่งงานย้ายออกไปอยู่กับภรรยาแล้ว ระหว่างน้ำท่วม ลูกชาย (บ้านไม่ท่วม) ก็นับครั้งได้ที่เข้ามาช่วยเหลือ ปล่อยให้พ่อ และน้องสาว ต้องอาศัยอยู่ชั้นบนของบ้านที่ท่วม ตัวพ่อนั้น มีสุขภาพไม่แข็งแรง เป็นเบาหวาน และความดันมานาน ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง เมื่อน้ำท่วมติดต่อกันนานกว่า 4 เดือน จึงไม่ได้ไปหาหมอ และไม่ได้ทานยาตามกำหนด ตัวน้องสาว ก็ตกงาน ออกมาค้าขาย และดูแลพ่อ ช่วงน้ำท่วมก็ไม่ได้ค้าขาย ต้องอาศัยเงินเก็บในการดำรงชีพ....โดยมิได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากพี่ชาย....

หลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไป...หน้าที่ฟื้นฟูซ่อมแซม ทำความสะอาดบ้าน น้องสาวก็เป็นคนทำทั้งหมด และทำเท่าที่ทำได้ จนถึงทุกวันนี้บางอย่างก็ปล่อยไว้ ไม่มีเงินพอจะซ่อมแซม... ส่วนตัวพ่อนั้น...หลังจากน้ำลด ก็มีอาการไม่มี มีการอ่อนเพลีย หมดสติ ซีด ลงทุกวัน .... น้องสาว จึงตัดสินใจพาพ่อไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะไปตรวจใช้สิทธิ 30 บาท ก็ได้ยา ความดัน ยาบำรุงเลือด ยาลดเบาหวานมาทานเหมือนเดิม โดยหมอมิได้ตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติมเลย...

ผลตรวจปรากฏว่า พ่อเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ต้องทำการฟอกเลือดด่วน .... เพราะมีโอกาสเสียชีวิตได้ภายใน 3 เดือน (หมอบอก...) ตัวน้องสาว ตกใจมาก ร้องไห้ และรีบโทรหาพี่ชาย พี่ชาย...ก็รีบให้พ่อเข้าโรงพยาบาล เพื่อตรวจเช็กให้แน่ใจ ผลปรากฏออกมาเหมือนกัน ...สรุปต้องฟอกไต...ซึ่งมีค่าใช้จ่ายมากมาย....พี่ชาย...บอกน้องสาวว่าตนไม่มีเงินนะ เพราะค่าใช้จ่ายของตนและครอบครัวตนก็มากเกินแล้ว อีกทั้งยังต้องทำบ้านใหม่อีก....

น้องสาว...จึงปรึกษากับพ่อ และเข้ารับการทำหลอดเลือดเทียม และฟอกไตในเวลาต่อมา โดยใช้เงินเก็บทั้งของพ่อ และน้องสายช่วยกัน ผ่านพ้นมาจนเข้าปี 2556 นี้ พ่อและน้องสาวก็พยายามประหยัด และหาเงินมาเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่าย ส่วนตัวพื่ชาย ก็บอกแต่ว่า ไม่มี ไม่มี และบางครั้ง ก็ยังมาขอเงินจากน้องสาวไปใช้อีก น้องสาว พยายามตัดพี่ชาย ออกจากครอบครัว แต่ก็ด้วยความใจอ่อน ก็ต้องยอมทุกครั้ง จนถึงวันหนึ่ง...พี่ชาย ก็มาขอเงินจากน้องสาวอีก และบอกว่าจะคืนให้เหมือนทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้...น้องสาวถามพี่ชายว่า...ต้องมีก่อนถึงให้หรอ หรือต้องรอให้พ่อตายก่อนถึงสำนึก... เงินที่ยืมไป หรือเอาไปแล้วไม่คืน เป็นค่าใช้จ่ายในการฟอกไตของพ่อ...ยิ่งยืมไป ยิ่งเอาไป ชีวิตพ่อจะลดลงไปอีก ซึ่งวันหนึ่งหากเงินเก็บหมดแล้ว ไม่สามารถพาพ่อไปฟอกได้ ก็คงต้องปล่อยให้พ่อตายนะ...

บ้าน เมีย ความสะดวก สบาย ของพี่ชาย มาก่อนใช้ไหม ชีวิตพ่อ มาที่หลัง การใช้เงินของพี่ชาย ทำไหมถึง ให้ชีวิตพ่อเป็นสุดท้าย ... หากพี่มีเงินเดือน 10000 บาท แบ่งให้พ่อก่อนได้ไหม 100 บาท ก็ยังได้ แต่ทำไหม แบ่งให้ตนเอง ให้เมีย ให้บ้านก่อน จนแม้กระทั่ง เพียง 1 บาท ยังไม่สามารถแบ่งให้พ่อได้...

พี่รู้ไหม ... ทุกวันนี้ ไม่เพียงพ่อจะผิดหวังกับพี่ชาย น้องสาวคนนี้ ก็ผิดหวังเหลือเกิน และเหนื่อยมากด้วย ที่บ้านเรา...พี่ชาย รู้ไหม...เรารอวันนี้เงินเก็บหมด พ่อ กับน้องสาวคนนี้ ก็คงต้องขายบ้าน (ตามที่พี่ชายอยากให้ขายเอาเงินมาแบ่งกันมาก) ทั้ง ๆ พี่ชายก็รู้ พ่อรักบ้านนี้มากขนาดไหน พ่อทำงานหนักเพียงไหนเพื่อให้เรามีบ้านอยู่...

พี่รู้ไหม...พี่ชาย... ทำไหม กิจการเงินของพี่มันถึงไม่คล่องตัว เพราะพี่แบ่งความสำคัญของชีวิตผิดหรือเปล่า...พี่ชาย...รู้ไหมว่า... ความกตัญญูคือ สิ่งที่จะทำให้พี่ประสบความสำเร็จได้นะค่ะ....

พี่รู้ไหมค่ะว่า...พ่อและน้องสาว เฝ้ารอพี่กลับมาเป็นพี่ที่ดี เป็นลูกที่ดี จนแทบหมดความหวังแล้วค่ะ...

ชีวิตของพ่อ ชีวิตของน้องสาว ก็มีแต่นับวันหมดลง ...แล้วพี่ชายคิดว่า...จะเป็นคนสูบชีวิตเหล่านี้ หรือจะเป็นคนต่อชีวิตเหล่านี้ ดีค่ะพี่ชาย....

เรื่องนี้...เป็นเรื่องจริงค่ะ...และครอบครัวนี้ก็ยังใช้ชีวิตเช่นนี้อยู่ ผู้เขียนได้แต่เฝ้ามองและเป็นกำลังใจให้คนพ่อ น้องสาว และพี่ชายคนนั้น ให้รู้สึกตัว เปิดตามองครอบครัวที่มาของตนบาง .....

ผู้เขียน...ได้รับการเล่าเรื่องนี้จากน้องสาว เพื่อระบายความรู้สึกภายในใจบ้างค่ะ... น้องสาว...ผู้ที่เคยน่ารักสดใส จิตใจอ่อนโยน คนที่ผู้เขียนรู้จัก เดียวนี้ เธอคนนั้น หน้าตาแก่ ไร้ความสดใส ร่างกายอ่อนแอลงทุกวัน แต่ก็พยายามประคองตนเองไปเรื่อย ๆ  ผู้เขียนขอให้เรื่องนี้ หากผู้อ่านได้อ่าน แล้วตระหนักคิดสักนิด อย่าให้ได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับครอบครัวไหนอีกเลยค่ะ...

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คลายเครียดน้ำท่วม ด้วยจดหมายรักของพี่กรุง กับน้องน้ำ และน้องทราย

จดหมายฉบับนี้ไม่ทราบที่ไปที่่มา แต่เห็นว่าขำ ๆ คลายเครียดกับบรรยากาศน้ำท่วมกรุงเทพแบบนี้

โดยเฉพาะเราเองก็เป็นผู้หนึ่งที่น้ำท่วมบ้าน เครียด จนนอนไม่หลับแล้ว แต่พอได้อ่าน จดหมายฉบับนี้ ขำมาก ๆ ทั้งตลก และแปลกใจอยากรู้ที่ไปที่มา แต่เมื่อไม่ทราบ ก็อยากเอามาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน จึงขออนุญาติคัดลอกมาให้เพื่อน ๆ อ่านกันนะค่ะ


จดหมายจาก น้องน้ำ ถึง พี่กรุง 


ถึง พี่กรุง

น้ำรู้ว่าพี่กรุงไม่ต้องการน้ำแล้ว รู้แล้วว่าพี่มีความสุขดีโดยที่ไม่มีน้ำ แต่พี่กรุงจำได้หรือป่าวว่าเราเคยมีความสุขกันมากขนาดไหน และน้ำรู้ว่าพี่ไม่พอไจที่น้ำกลับมาหาพี่ 


ถึงแม้ที่ผ่านๆมาน้ำทำไม่ดีกับคนอื่นมา แต่น้ำอยากให้รู้ว่าน้ำใช้เป็นทางผ่านเพื่อมาหาพี่กรุง ตอนนี้น้ำทำได้ดีที่สุดก็แค่อยู่ รอบๆตัวพี่กรุง 

แต่ให้พี่รู้เอาไว้ว่าสักวันน้ำจะเข้าไปหาพี่กรุงให้ได้ เราจะมี...เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน น้ำอยากให้พี่กรุงรู้เอาไว้ว่าน้ำจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจและตัดใจจากพี่กรุง 

ถึงแม้ผุ้ใหญ่ของพี่จะผลักดันน้ำให้ออกห่างจากพี่กรุงก็ตาม แต่น้ำไม่แคร์!!! 

ถึงแม้ใครจะด่าน้ำ เบื่อน้ำเกลียดน้ำ น้ำก็จะไปอยู่กะพี่กรุงให้ได้พี่กรุงคอยดูละกัน
ปล. ฝากบอกนังทรายด้วยว่าน้ำไม่ยอมง่ายๆ หรอก ชิส์

น้ำ

จดหมายตอบจาก พี่กรุง ถึง น้องน้ำ

ถึง...น้ำ

น้ำ...พี่อยากให้น้ำรู้ ทุกวันนี้พี่อยู่โดยไม่มีน้ำ พี่มีความสุขดีอยู่แล้ว

น้ำจะมาอะไรตอนนี้ เชื่อเถอะยังไงพี่ก็ไม่มีความสุขหรอก น้ำไปตามทางของน้ำเถอะพี่รู้ดีน้ำเป็นยังไง แต่เอาเถอะ ถ้าน้ำดึงดันจะมา พี่เข้าใจ จะมาก็มาเลย พี่รับได้...ฝันของพี่จะได้เป็นจริงสักที พี่จะได้ไม่ต้องไปอยู่ไหนอยู่แต่กับน้ำ

แต่ขอร้อง...น้ำอย่าให้ความหวังพี่ว่าน้ำจะมา แล้วมัวแต่ไปอยู่กับคนอื่น ถ้าน้ำจะมา ขอให้มาเต็ม มาเคลียร์ให้มันจบๆ ไม่ใช่ให้พี่คอยลุ้นว่าจะมาไม่มา มันทรมานนะ อย่าทำกับพี่เหมือนที่น้ำทำกับคนอื่นเลย เข้าใจพี่นะ

แต่ยังไงก็ตามถึงแม้ชีวิตพี่จะขาดน้ำไม่ได้ แต่เราต่างคนต่างอยู่เถอะ ถ้าพี่ต้องการน้ำเมื่อไหร่พี่จะเปิดก๊อกเอง... 


พี่กรุง

จดหมายจาก ทราย ถึง นังน้ำ

ทรายอยากให้น้ำรู้ไว้นะว่า น้ำเป็นเพียงแค่อดีตของพี่กรุง และทรายจะทำทุกวิถีทาง
เพื่อกีดกันน้ำไม่ให้พบกับพี่กรุง 

ผู้ใหญ่เค้าก็เห็นดีเห็นชอบ กับทรายให้ทรายคอยกันน้ำ ไปทางอื่น และถึงแม้ว่าผู้ใหญ่เค้าจะบอกว่า "เอาอยู่"
แต่น้ำก็ยังไม่ยอมหยุดที่จะ ทำลาย ทราย และ พี่กรุง
ขอร้องเถอะนะน้ำ อย่ามาทำให้ใครต่อใคร ต้องชอกช้ำ เพราะน้ำไปมากกว่านี้เลย
ทรายสัญญาจะดูแลพี่กรุงให้ดีที่สุด และไม่ว่าน้ำจะลดละ หรือ ไหลบ่า ท่วมทุ่ง
ซักกี่ลูกบาศ์กเมตรก็ตาม ทรายก็จะคอยหนุน และเปลี่ยนน้ำ ให้ไปทางอื่นให้ได้

"ถุงทราย"


ถึง…น้องน้ำ

พี่อยากจะบอกน้องน้ำว่า พี่ยังรอน้องน้ำอยู่ทุกลมหายใจ เมื่อเขารังเกียจไม่มีใครต้องการแล้วเราจะอยู่ทำไมให้เขาขับไล่ไสส่ง
กลับมาอยู่ในที่ของเราเถอะ พี่กรุงเขากำลังหลงอยู่กับ แสง สี เสียง
ก็ปล่อยเขาอยู่กับนังทรายต่อไปก็แล้วกัน กลับมาไวๆนะ พี่ทะเลรออยู่และจะรอตลอดไป

รักน้องน้ำสุดหัวใจ

จาก……..พี่ทะเล

เป็นไงค่ะ อ่านแล้วอย่าแอบขำอยู่คนเดียวนะค่ะ แบ่งปันให้เพื่อน ๆ คนรู้จักคุณขำไปด้วยกันนะค่ะ คลายเครียดในสถานการณ์แบบนี้ ค่ะ

เป็นกำลังใจให้ สู้ต่อไปนะค่ะ .....