วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพกับทริปนครนายก

ทริป 1 วันกับนครนายก

ทริปแรกของการกลับมาของแกงค์ตะลอนเที่ยว เริ่มต้นนัดกันตั้งแต่ต้นเดือน สรุปได้ในวันที่ 23 สิงหาคม 2552 (แต่ละคน busy มาก ๆ แบบว่าระดับผู้บริหาร ถ้าขาดงานแล้วจะธุรกิจจะขาดทุนกว่าร้อยล้าน....ฮึ..ฮึ)

งานนี้คนจัดโปรแกรม ก็เป็นหน้าที่หัวหน้าแกงค์ (ยัย..ต) รับหน้าที่ในการ set program ซึ่งเบื้องหลังเจ้แกก็ทำการเปิดเนตแล้วหาข้อมูลเพียง 15 นาที แล้วส่งโปรแกรมเสนอไปยังลูกทีม.... คำตอบที่รอคอยหายไปกว่า 1 อาทิตย์ จากโปรแกรม 2 วัน 1 คืน ลดเป็น 1 วัน จากโปรแกรมล่องแก่ง Avenger สุด ๆ ก็เริ่มไม่มั่นคงเสียแล้ว ....แต่คำตอบจากหัวหน้าแกงค์ "ไม่ต้องห่วงพี่เซตไว้แล้ว ไปได้เลย เป็นวันเดียวกลับ"  ลูกแกงค์ได้ฟังดังนั้นก็สบายใจ...(ละมั่ง)

เวลานัดเริ่มต้นที่ 8.30 น. ที่รังสิต ข่าวล่ามาว่า เจ้า..ม. จากตากจะมาด้วย นัดกัน 8.00 น. (เจ้านี้ นัดยาก นัดเย็น แบบว่า ...นัดแล้วใยไม่มา นัดแล้วลืมสัญญา ประมาณนั้น... สุดท้ายก็เฟค...จนได้ พี่แกไม่มาอีกแล้ว ... พอคุยกัน ก็แบบว่า... ขอบอกผ่านตัวอักษรนี้ฝากสายเนตไปว่า "เพื่อน ๆ ให้อภัยแล้ว ส่งข่าวด่วน....

การเดินทางเริ่มจากรังสิต เส้นทางนครนายก วิ่งตรงไปเรื่อย เข้าเขตอ.เมือง และเส้นทางสาย 3049 ไปยังน้ำตกนางรอง และเขื่อนท่าด่าน ทริปนี้เรามีผู้ชายแค่ 2 คน จึงขอใช้คำว่า "ผู้ชายมีน้อย ต้องใช้สอยให้ประหยัด และมีประโยชน์" กล่าวคำนี้ แล้วก็ใช้มันทั้งสองขนของ และขับรถ ตามคอนเซ็ป...อิอิ (ใครจะกล้าหือ...แกงค์นี้ผู้หญิงเป็นใหญ่)

ในรถ หัวหน้าแกงค์ก็ส่งกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีในนครนายก ให้ลูกทีมเลือก สรุปว่ากิจกรรมที่อยากทำแบ่งเป็นหลายกลุ่มกัน เช่น โรยตัว จิ้งจอกเหินเวหา บีบีกัน เที่ยวน้ำตก ลงเรือเที่ยวเขื่อน ซึ่งระหว่างทางก็มีกิจกรรมล่องแพ โรยตัว ATV อยู่ระหว่างทางหลายเจ้าด้วยกัน แล้วแต่จะเลือก ซึ่งระหว่างขับรถผ่านไป ลูกทีม A เอย...ขึ้นมาว่า จิ้งจกเหินเวหา แบบว่า อ่านผิดจากคำว่า จิ้งจอกเป็นจิ้งจก.... (อาการ ฮาแตกจึงบังเกิดขึ้นบนรถ....อิ อิ เอา ฮา............)  สำหรับกิจกรรมเมื่อได้สอบถามพบว่าบางกิจกรรมไปน้อยก็เล่นได้ บางกิจกรรมก็กำหนดขั้นต่ำ เช่น โรยตัวหน้าผาจริง เน้นว่า ต้องไปตั้งแต่ 8 คนขึ้นไป ราคาก็เท่ากันทุกเจ้า เลือกเอาเองนะจ๊ะ... (แบบว่า...การท่องเที่ยวทำงาน ควบคุมราคาได้ดีมาก...)

ระหว่างทางเห็นแวะไปไหว้พระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในนครนายก งานนี้คนเยอะมาก เพราะว่ามีพิธีบูชาพระพิฆเนสร่วม 9 องค์ มีพราหมมาทำพิธีด้วย เตรียมการขากล้อง กล้องถ่ายรูป เอาลงไป แต่ปรากฏว่า ลืมเอาถ่านไป ถามลูกแกงค์...เจ้า ก. ปรากฏว่า เอาถ่านมาแค่ 2 ก้อน กรรม...ละซิครับ กล้องนี้ใช้ถ่าน 4 ก้อน เวร....ไปกันมากี่เที่ยวแล้วหือ... งานนี้โชคช่วย... ลูกแกงค์อดีต เนวิกเกเตอร์ จ. เอากล้องพกติดตัวมา เลยได้ถ่ายเก็บบรรยากาศ อิอิ...รอดไป เดียวค่อยไปแวะซื้อถ่านใหม่...

ในงานพิธี... มีพระพิฆเนศ องค์ใหญ่เป็นพระประธาน ท่านมีหนู เป็นข้ารับใช้ เวลาเราไปไหว้ ก็ทำการจุดธูป เทียน ไหว้และอธิฐาน และเดินวนองค์ท่านอีก 3 รอบ และลงไปบอกเล่าคำอธิฐานให้กับรูปปั้นหนูที่เป็นข้ารับใช้ของท่าน เพื่อให้เจ้าหนูตัวนี้นำคำอธิฐานไปเตือนท่านเพื่อให้คำอธิฐานของเราเป็นจริง ทั้งนี้ วิธีการบอกกับเจ้าหนูคือ ... ไปกระซิบที่หนูข้างหนึ่ง อีกข้างให้เอามือปิดไว้... งานนี้พวกเราก็ทยอยกันทำ แต่คุณรู้ไหมว่า การที่รูปปั้นหนูซึ่งเป็นเหล็กสำริดตั้งอยู่อย่างนั้นตรงจุดเดียว และมีแสงแดดส่อง เวลาเรากระซิบ และเอามืออีกข้างไปป้องปิดหูหนูไว้ มันร้อนแค่ไหน ตอบได้เลยว่า ร้อนโค..ร..ต... มือพองแดงกันเป็นแถว ๆ แต่จำต้องทน เพื่อพรอันศักดิ์สิทธิ์ กลัวไม่ได้พร มือประกบป้องหูหนูไปเต็ม ๆ ร้อนก็ทน คำอธิฐานก็ยาว โอ๋...มายก็อต (ต้องจดจำกันไปอีกนานเลยแหละ....ความร้อนนี้...)

จากนั้นก็ขับรถไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน หรือชื่อเต็มว่า เขื่อนขุนด่านปราการชล ชื่อเล่นว่า เขื่อนคลองท่าด่าน ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในโลก สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตัวเขื่อนมีความยาวรวม 2,720 เมตร สูง 93 เมตร ทำหน้าที่รับน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำ มีบริการให้นั่งรถรางไปตามสันเขื่อน ราคาต่อท่าน 20 บาท และมีไกด์สาวสวยคอยเล่าประวัดิของเขื่อนให้ฟังในขณะที่นั่งรถรางไปตามสันเขื่อน การเล่าก็ดำเนินไปตามปกติ จนมีเสียงถามขึ้นมาว่า น้ำไหลจากน้ำตกเหวนคร แล้วช้างที่ตกไปลอยมาติดเขื่อนตรงนี้หรือเปล่า...คำตอบจากไกด์ก็บอกใช่ค่ะ แสดงว่า...อืม แสดงว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นก็มารอเก็บพวกเราตรงนี้....อ้าวยัยป้า พูดเสียเสียงดัง (วงแตกอ่ะงานนี้ อิอิ...ยัยหัวหน้าแกงค์...)


หลังจากนั้น ก็ไปแวะซื้อข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ร้านแรกตรงสามแยก ที่ขับออกมาจากเขื่อนแล้วเลี้ยวไปทางน้ำตกนางรอง (แอบกระซิบนิดว่าไม่อร่อย แนะนำว่าอย่าซื้อเลย....) แต่ร้านขายของข้าง ๆ คุณตากับคุณยายมีสวนลองกองหวานอร่อยมาก 3 กิโล 100 บาท ลูกใหญ่ แพงนิด แต่ถือว่าเพื่อคุณตา คุณยายน่ารักดี   เมื่อได้สเบียงแล้วขับตรงไปยังน้ำตกนางรอง เห็นห้าง 108 แวะทันที่หาซื้อถ่าน ปรากฏหมดอีก โอ้มาย...ก็อด... งานนี้ขัดใจเจ้ เจ้ไม่ยอม....   

ถึงน้ำตกนางรองเสียค่าเข้า 100 บาท ค่ารถ 40 บาท คนอีกคนละ 10 บาท ในน้ำตกนางรองก็มีร้านค้ามากมาย ทั้งขนม อาหาร และเสื้อผ้า ให้เลือกซื้อกัน เดินไปแค่เพียงนิดเดียว เน้น....นิดเดียวจริง ๆ น้ำตกมีกระหยอมเดียว แต่คนเต็ม คนเยอะมาก (มาทำไมกันเนี่ย ไม่เข้าใจ...) แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ ยังสามารถหาที่ปูเสื่อและนั่งกินกันได้ กินไปเมาส์กันไปอย่างสนุกสนาน.... รวมปรึกษาหารือกันว่าตกลงจะไปทำกิจกรรมอะไรกันต่อดี ฝนก็ทำท่าเหมือนจะตก...คิดซิ คิด.... จะนอนก็คงไม่ดี คนก็เยอะ ไม่น่าเวิรค์.. ปรึกษากันไปก็สรุปเหมือนเดิม คือ ขับรถไปวน ๆ ดูก่อนแล้วกัน อ้าว..แล้วปรึกษากันทำไหมวะเนี่ย... (แกงค์นี้มันไม่คิดไง...) หลังจากอิ่มหน่ำแล้ว ก็ออกมาตะเวนหากิจกรรมเล่นกัน

แต่จริง ๆ แล้ว ขอกระซิบบอกหน่อยมีอยู่ 2 คน มันรวมหัวกัน คิดว่าจะให้ไปล่องเรือที่เขื่อน แต่ไม่พูด คือ (หัวหน้าแกงค์ และเจ้า ก.) แอบกระซิบกระซาบกัน และรวมหัวกันตกลงไปแล้ว โดยที่คนอื่น ในแกงค์มิได้รับรู้...อิอิ ตัววางแผนทำงานแล้ว... ปล่อยให้ลูก ๆ แกงค์ กับคนขับ นาย ต. ขับไปขับมาหากิจกรรม ถามราคา และสรุปกันไม่ได้ จนถึงเวลา ฮิโร่ ต้องออกโรง ฟันธงเสียแล้ว อิอิ... หัวหน้าแกงค์ขอตัดสินเลยนะ... ไปเขื่อนล่องเรือแหละ ... (อิ ... อิ... เข้าแผน แอบมองหน้ากัน กับ เจ้า ก. แล้วยิ้ม)

พอไปถึง ก็สอบถามราคาเรือ 200 บาทต่อหัว เป็นเรือหางยาวมีหลังคา ได้ไปดูน้ำตก 3 ที่ คือ น้ำตกแสงน้อย น้ำตกโคกครม น้ำตกช่องลม และสามารถเล่นน้ำได้ด้วย "เอาเลย...เปลี่ยนชุด เล่นน้ำตก นั่งเรือ ชมธรรมชาติ ชิว...ชิว...." หยุดก่อน ใครบอกคุณว่า โปรแกรมล่องเรือ ชมธรรมชาติในเขื่อนขุนด่านปราการชล ชิว...ชิว...ถ้าใครคิดแบบนั้น จะต้องเปลี่ยนความคิดทันที ที่คุณได้เห็นภาพและเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปในตอน 2.............ติดตามตอนหน้านะจ๊ะ ใครไม่รออ่านต่อ งอนนะค่ะ

ปล. รูปที่ถ่าย รอภาพประกอบจาก เนวิกเกเตอร์ จ. ก่อนนะ

ไม่มีความคิดเห็น: