วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาศรมมาตา โคราช สถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับผู้หญิง


จังหวัดโคราช อ.ปักธงชัย

สถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับผู้หญิง


เส้นทางการเดินทางไป อาศรมมาตา ดูจากแผนที่ ดังนี้



ขับไปทางโคราช ปักธงชัย กิโลเมตรที่ 42 ก็จะเห็นป้ายทางเข้าแล้วค่ะ



 
บริเวณเขตของอาศรมมาตาแบ่งออกเป็น 4 เขต

เขต 1 เป็นสำนักงาน ครัวหลัก สถานที่ปฏิบัติธรรม มีน้ำ มีไฟ มีที่พักหลายหลังด้วยกัน
เขต 2 เป็นเขตปฏิบัติธรรม ระดับ 2 มีที่พัก แยกเป็นหลัง ๆ มีห้องนอน ห้องน้ำ มีน้ำ แต่ไม่มีไฟ มีเทียนให้
เขต 3 เป็นเขตปฏิบัติธรรมที่เรียกว่า ห้องกรงน้ำ บ้านเป็นหลังอยู่ในป่า ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ห้องน้ำ ห้องครัว อยู่ด้านนอกของที่พัก เป็นการฝึกจิต อยู่ตัวคนเดียว ในที่จำกัดบริเวณ
เขต 4 เป็นเขตป่า มีบ้านพักอยู่ในป่า มีน้ำ ไม่มีไฟ บ้านพักกระจายอยู่ในบ้าน แต่ละหลังห่างกันออกไป คนละมุม





ศาลาปิตา เป็นห้องพัก คุณแม่เล็ก เจ้าของอาศรมมาตา และด้านบนชั้นสองเป็นห้องพระ ห้องประชุม ห้องปฏิบัติธรรม



หลังนี้คือ บ้านเขต 2 มีห้องนอน ห้องน้ำ ไม่มีไฟ ที่ตู๋ไปพักปฏิบัติธรรม
กลางวันสวยมาก แต่กลางคืน มืดมาก ๆ

คืนแรก ท้องฟ้า ดวงดาวสวยมาก ๆ ดาวเต็มท้องฟ้า คืนนั้นก็ฝันว่า เจ้าของที่ เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เข้าเดินมานั่งที่ข้างเตียง และบอกว่าเป็นเจ้าของเตียงนี้ ในฝันก็สวดมนต์ให้เขา และก็ขอเขาดี ๆ ว่ามาปฏิบัติธรรม กลัว ก็ กลัวค่ะ แต่ประมาณว่า ครึ่งหลับ ครึ่งตื่น

รู้แต่ว่า เขาก็โอเค พอใจ ยิ้มแย้มให้ แต่คืนที่สองก็ไม่ได้ฝันแล้วค่ะ หลับสนิทเลย

(ปล. ไปพักที่ไหนอย่างลืมไหว้เจ้าที่เจ้าทาง และบอกกล่าวเขาด้วยนะค่ะ)

 
บริเวณของบ้านพักเขตสอง ก็เป็นป่าไม่มีไฟ ทางเดินขึ้นลง ของบ้านพัก ไปเขต 1 ไปปฏิบัติธรรม
ต้องตื่นตี 4 อาบน้ำ ล้างหน้า ตี 4.20 น. เดินออกมาพร้อมไฟฉาย (เตรียมไปเอง) มืดมาก เสียงนก จิ้งหรีด ระงม มืดขนาดมองไม่เห็นทาง ไม่กล้ามองหันหลังไป เสียงอะไรก็ไม่ต้องไปสนใจ เดินอย่างเดียว ระยะทางจากบ้านพัก วิโมกข์ ไปถึง เขตหนึ่ง ก็ประมาณสัก 700 เมตร ได้มั่ง เดินประมาณ 10 - 15 นาที วันแรกไม่ชินทางเดินหลงนิดหน่อย เพราะมืดมาก (แต่มันก็เป็นตามทางนะ หลงได้ไงไม่รู้ อิอิ..)



ห้องพักก็มีเตียง ที่นอน หมอน ผ้าห่ม น้ำ 1 ขวด แก้ว 2 ใบ เทียน ธูป ไฟแช็ก ห้องน้ำ 1 ห้อง พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาดห้อง กับห้องน้ำ

ใช้แล้วก็ควรทำความสะอาดก่อนกลับ เก็บที่นอน ให้เรียบร้อยด้วยนะค่ะ




คุณแม่เล็ก อุบาสิกา ผู้ให้หลักธรรม

"คนเราเกิดมาเพื่อ ทำหน้าที่ของตนในฐานะต่าง ๆ ให้ดีที่สุด และเพื่อทำหน้าที่นำพาดวงจิตของตน ณ ปัจจุบันชาตินี้ให้หลุดพ้นจากกิเลสต่าง ๆ ให้มากที่สุด ยังผลเพื่ออนาคต"

"การฝึกวิปัสสนาตามหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า เปรียบเสมือนเรือที่นำเราไปสู่นิพพาน แต่เราต้องฝึกฝน อดทน และศรัทธา ที่จะขึ้นเรือพระธรรมวินัย ออกสู่ท้องทะเล มหาสมุทร ที่ต้องลมพายุ กว่าจะไปถึงฝั่งพระนิพพาน"

"การฝึกวิปัสสานา มีมากมายหลากหลายวิธี ตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านชี้นำ แต่สำหรับตัวของเรา
"สติปฐาน 4" เป็นทางสายกลางที่พระพุทธองค์ทรงเลือกมาให้เราแล้ว"

 


 
"ธรรมชาติที่รายล้อม มิใช่ให้เรามัวชื่นชม แต่เราควรเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเหล่านั้น ธรรมชาติจะสอนธรรมะ หรือหลักธรรมให้กับเรา" คำกล่าวนี้ จาก แม่ชีทิพย์


ที่อาศรมมาตา ท่านทานมังสวิรัติ ทุกวัน อาหารเหล่านี้ ล้วนเป็นผักปลอดสารพิษ ผักริมริ้ว ผักที่ญาติโยมนำมาถวาย เพื่อเป็นอาหารให้แม่ชี และผู้ปฏิบัติธรรมได้รับประทานกัน

ขอร่วมอนุโมทนากับทุกท่าน...


การเดินจงกรม ในป่าเขต 4 เหล่าแม่ชี และนักปฏิบัติธรรม ต้องเดินเท้าเปล่า เพื่อฝึกจิต และยอมรับตนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ



นิพพาน... สถานที่แห่งนี้ คือแห่งไหน ใคร ๆ อยากไปให้ถึง...
นิพพาน.... ซื้อหาไม่ได้ ใครให้ใครก็ไม่ได้ ใครพาใครไปก็ไม่ได้

รับรู้ได้...ด้วยจิตของตนเองเท่านั้น....

"ไม่มีใคร พาใครไปได้ แม้แต่พระพุทธองค์เอง ท่านก็ยังเคยตรัส ว่า แม้แต่ตัวท่านเองได้แต่ชี้ทางบอก ให้พระธรรมวินัยเป็นเครื่องมือให้ แต่มิสามารถนำใครไปสู่นิพพานได้ หากผู้ใครต้องการไปสู่นิพพาน ก็ต้องปฏิบัติวิปัสสนาเอาเอง รู้ได้ตัวตนเอง ไปได้ด้วยตนเอง เช่นกัน"






แม้แต่สุนัขในสถานที่นี้ ยังชอบเดินจงกรมไปกับเหล่าแม่ชี เป็นทั้งผู้นำทาง และเป็นผู้ติดตาม






ลานหิน "ผลาญหินสิ้นกิเลส" ปลงกับตนเอง สลายธาตุในร่างกายตนให้กลายเป็นไอเดียวกับธรรมชาติ

คุณแม่ชีไพเราะ "ธรรมะคือธรรมชาติ การฝึกตนให้เข้าถึงธรรมะ คือ การน้อมจิตของเราให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมะชาติ"


กิเลสนี้ มากนักหนา
เอามันมา ผลาสไปให้สิ้นเสีย...

(คิดต่อบ่ออกเด้อ....)




สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้กับสรรพสิ่งในพิภพ...ทุกภพภูมิ

เสียงสวด ดังก้องในดวงจิต
วิญญาณสั่นสะท้าน รับรู้
เสียงสวด ไพเราะ เสนาะหู
สะท้านจิต ผู้รู้ รับฟัง....

ธรรมะอยู่ที่ตัวเรา มิต้องไปค้นหาที่ใด หนังสือธรรมะ บอก พระธรรมวินัย เครื่องมือในการเรียนรู้ธรรมะ แต่เราจะเข้าใจหรือค้นพบ ตัวรู้ จิตผู้รู้ ได้หรือไม่ อยู่ที่ตัวเราต้องปฏิบัติเอง

การเห็นซึ่งทุกข์ หากเราไม่เอาความรู้สึกไปมีส่วนร่วมด้วย เราจะเห็นว่า ความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ ก็ดับเองได้ แต่หากเรานำอารมณ์หรือจิตไปร่วมด้วย ความทุกข์ก็มีพลังที่ขยายตัวสุดท้ายก็กลับมาทำลายตัวเองเลย....

อาศรมมาตา สถานที่ปฏิบัติธรรม ผู้ใฝ่หาแสงสว่างแห่งดวงจิต .....

ความประทับใจ...

คุณแม่เล็ก.... ตู๋ประทับใจในความเมตตาของท่าน คุณแม่ให้แง่คิด หลักธรรมะ แก่นของพระธรรมวินัย หลักการปฏิบัติในแบบฉบับย่อที่ชัดเจน คราวนี้ก็อยู่ที่ตัวตู๋เองแล้วค่ะ ว่าจะขยัน อดทน มีมานะ เพียรพยายามฝึกตนเองแค่ไหน บอกไม่มีเวลาคงไม่ใช่ข้ออ้างแล้วค่ะ ในเมื่อ การดำเนินชีวิต ทุกขณะจิต มันคือ การฝึกวิปัสสนาได้ทั้งนั้น ....

คุณแม่ชีไพเราะ... ตู๋ประทับใจในแนวความคิด ปรัชญา ของการฝึกธรรมะโดยการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ การนั่งสมาธิแบบลืมตา การน้อมจิตให้เข้ากับธรรมชาติ รู้สึกดี สดชื่น และเหมือนร่างกายได้รับความรู้สึกของธรรมชาติมากขึ้นค่ะ

คุณแม่ชีถนอม... ตู๋ประทับใจแนวทางฝึกจิต ตู๋ฝึกมายังไง ก็ไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงได้ คุณแม่ได้ให้แนวทางวิธีเริ่มต้นในการปฏิบัติ ตู๋จะพยายามนำกลับไปฝึกฝนค่ะ

แม่ชีทิพย์... ตู๋ประทับใจในอัธยาศัย ความมีเมตตาของพี่แม่ชีมาก ขอบคุณสำหรับคำสอน แนวความคิดดี ๆ ที่แนะนำตู๋ ขอบคุณค่ะ

แม่ชี น้อง ๆ ทุกคน... ตู๋ประทับใจในอัธยาศัย ความเป็นกันเอง ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ตลอดจนแนวความคิดในการปฏิบัติธรรมของแต่ละท่าน ขอบคุณที่แบ่งปัน...ประสบการณ์กันค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: