แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาศรมมาตา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาศรมมาตา แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรม "พุทธวิธีการดูแลจิตวิญญาณผู้ป่วยระยะสุดท้าย"


ทีมงาน "หนึ่งภาพเล่าเรื่อง" ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่กิจกรรมดี ๆ เพื่อเป็นกุศลบุญร่วมกับอาศรมมาตา เพื่อเรียนเชิญผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม ในหัวข้อเรื่อง
"พุทธวิธีการดูแลจิตวิญญาณผู้ป่วยระยะท้าย"

โดยพระอาจารย์แสนปราชญ์ ฐิตสัทโธ 
จาก สำนักปฏิบัติธรรมวัดโสงหนองบัว จังหวัดนครราชสีมา

ในวันที่ 5 - 7 มีนาคม 2561
ณ อาศรมมาตา ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
รับเพียงจำนวนจำกัด 50 ท่านเท่านั้น

สนใจติดต่อ
โทร. 08-1913-5031 หรือ 08-1613-9739

“อาศรมมาตา” ที่พักภาวนาเพื่อพัฒนาจิตใจ 

ที่ตั้ง 67 หมู่ 7 ตำบลภูหลวง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา 30150




ร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่สนใจและร่วมกิจกรรมบุญนี้ค่ะ

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ธุดงค์กรรมฐาน ครั้งที่ 3 อาศรมมาตา

การเข้าคอร์สวิปัสสนา หรือ ธุดงค์กรรมฐาน ของ อาศรมมาตา ณ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา หรือโคราช ครั้งนี้ เป็นการจัดครั้งที่ 3 แล้ว โดยมีท่านพระอาจารย์ ครรชิต อภิญจโน เป็นวิทยากรหลัก ในการนำ ธุดงค์ และนำ วิปัสนากรรมฐาน ครั้งที่ 3 นี้ มีท่านอาจารย์วัลลภ ปัญญาชวนะ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง รหัสกรรม มาเป็นวิทยากรร่วม ทำให้เราเข้าใจหลักธรรมในเชิงธรรมยุทธ ได้มากขึ้นด้วย
มือถือไมด์เหมือนกัน แต่แตกต่างนะค่ะ
ธุดงค์กรรมฐาน ครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 4 - 8 ธันวาคม 2553 ณ เขต 4 อาศรมมาตา และ วัดเขาคอกช้าง เจดีย์พุทธคยา 


การเข้าคอร์ส ธุดงค์กรรมฐาน นี้ เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้หญิงได้เข้าฝึกกรรมฐาน วิปัสสนา ธุดงค์ กินข้าวในบาตร นอนกลด เรียนรู้ธรรมชาติของจิต ได้อย่างสบายใจ ปลอดภัย

การปฏิบัติธรรมของผู้หญิง ค่อนข้างไม่สะดวกในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องของความปลอดภัย ความไม่สะดวก ความกลัว และอื่น ๆ ดังนั้น คุณแม่เล็ก ทิพวรรณ แห่งอาศรมมาตา จึงดำริจัดตั้ง มูลนิธิ อาศรมมาตา ขึ้น เพื่อให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของเหล่าธรรมสาวิกา (ผู้ใหญ่ที่ใฝ่ธรรม) เพื่อให้มีความสบายใจ ปลอดภัย ในการเจริญวิปัสสนาเพื่อให้เข้าถึงพระนิพพาน


น้ำใสสะอาด อากาศสดชื่น ป่าไม้ร่มรื่น รู้ตื่นเบิกบาน
อาศรมมาตา คือธรรมสถาน เอื้อเฟื้อเจือจาน เพื่อท่านสตรี
พักบำเพ็ญภาวนา รักษาจิตนี้ เพิ่มพูนความดี ตามวิถีพุทธธรร




ประมวลภาพบรรยากาศ การเข้าร่วม ธุดงค์กรรมฐาน ครั้งที่ 3 ของเหล่าธรรมสาวิกา ณ อาศรมมาตาและ วัดเขาคอกช้าง โดยวิทยากร พระอาจารย์ ครรชิต อภิญจโน และ อาจารย์ วัลลภ ปัญญาชวนะ
67 หมู่ 7 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 30150
โทรศัพท์ (081) 913-5031
E-mail : t_ashram_mata@hotmail.com
อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน
http://ashrammata.blogspot.com/

สนใจติดต่อเข้าร่วมปฏิบัติธรรมได้ที่ คุณแม่เล็ก 081-913-5031


วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553

ธุดงค์กรรมฐานครั้งที่ ๒

ธุดงค์กรรมฐานครั้งที่ ๒

พระอาจารย์ครรชิต อภิญจโน วิทยากร

ณ อาศรมมาตา

ธรรมสาวิกา 21 ท่าน

กิจกรรมโดยสรุป ถือศีลแปด, ทำวัตรเช้า เย็น, นอนกลด, ฟังธรรม, ปฏิบัติธรรม, เดินจงกลม, เดินธุดงค์ข้ามเขาหลวงไปวัดปอแดง

(ชิตังเม ขอความเป็นผู้ชนะกิเลสจงมีแด่พุทธสาวิกาทุกท่าน)

จากบทกลอนหนึ่ง ในอาศรมมาตา เขียนไว้ว่า นักปฏิบัติธรรมหญิง ห่วง กิน และ กลัว นักปฏิบัติธรรมชาย ห่วง กาม และเกรียติ อ่านแล้วพึงตระหนักในความจริงข้อนี้จริง ๆ แต่เหล่านักรบสาวิการุ่นนี้ ได้ตอบโจทย์ของ การตัดสิ้น ความห่วง บ่วงทั้งสองนี้สิ้น ทั้งกิน ไม่ห่วง ทั้ง กลัว ไม่หวั่น ช่างน่าประทับใจจริง ๆ ค่ะ






งานครั้งนี้ ตู๋ไม่ได้เข้าร่วมแต่แรก แต่มีโอกาสได้เดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศในวันที่ ๓ ของการเข้ากรรมฐานครั้งนี้ ของเหล่านักรบสาวิกา รุ่น ๒ ซึ่งได้สัมผัสกับความตั้งใจของพี่ ๆ ทุกท่าน สร้างความประทับใจให้มาก ๆ เลยค่ะ

ความตั้งใจ ความอดทน ความเสียสละเวลา เพื่อมาแสวงหาตัวตน เรียนรู้ธรรมะ ความมีสติ ทำให้งานนี้ ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

สนใจติดต่ออาศรมมาตาได้ที่

คุณไก่ 081-9135931
คุณจิ๋ว 089-1244334

ตารางปฏิบัติธรรม ประจำปี 2561




บทความเก่า ธุดงค์กรรมฐานครั้งที่ ๑

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

ธุดงค์กรรมฐาน ณ ป่าธรรมสาวิกา อาศรมมาตา ปักธงชัย โคราช

ขอเริ่มต้น ด้วยกลอนจากคุณแม่เล็ก ท.ทท ๒๑ สิงหาคม ๒๕๓๑ เป็นบทกลอนบทหนึ่ง มีใจความว่า....

วันดี คือ วันที่มีลมหายใจ  (จริงมั๊ย...)

วันไหนก็ดีทั้งนั้น 
ถ้าเป็นวันขยันทำความดี
เช้าสายบ่ายเย็นเพียรทุกนาที
เวลาไหนก็มีสติที่รู้จับลม
จะยืนเดินนอนนั่งระวังจิต
ให้แนบสนิทภายในไม่ขำคม 
หายใจเข้าออกดอกที่เหมาะสม 
ดีที่ยังมีลมหายใจไม่ตาย....

 ครั้งแรกที่ได้อ่าน....รู้สึกว่า ดีจริงนะ ที่ยังมีชีวิต มีลมหายใจ ได้มาฝึกสติ ทำให้เราพบ... คำตอบที่อยู่ในใจเรามากมาย...คุณเองก็...รู้ได้......(จริง ๆ นะ)

เริ่มต้นก็ลึก ก็ซื้ง กันเสียแล้ว ก่อนจะนอกเรื่องไปมากกว่านี้ ขอกลับเข้ามาเรื่อง ธุดงค์กรรมฐานของเหล่าหญิงที่มีใจใฝ่ทางธรรมกันเสียก่อน ออกไปนอกเรื่อง...

ธุดงค์กรรมฐาน ๔ วัน ๓ คืน สำหรับผู้หญิง มีการฟังธรรมะ ฝึกการวิปัสสนากรรมฐาน การปักกลด เดินธุดงค์ รับบิณฑบาตร ในเขตป่าธรรมสาวิกา ณ อาศรมมาตา โดยมีพระอาจารย์ ครรชิต อภิญจโน เป็นวิทยากร และมีวิทยากรรับเชิญ พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ (ตารางการปฏิบัติธรรมครั้งต่อไปดูที่นี้)

ครั้งนี้เราไม่ได้ไปร่วมปฏิบัติธุดงค์กรรมฐานแบบเต็มตัว แต่ไปในฐานะของช่างภาพทีมงาน ธรรมะบริกร ที่จะประสานงาน จัดสถานที่ และทำการเก็บภาพบรรยากาศ เพื่อจัดทำ presentation แนะนำอาศรมมาตา (ใครมีความรู้ความสามารถ และอยากช่วยติดต่อมาได้ที่ tusora@hotmail.com อยากได้คนตัดต่อ VDO เป็น, คนแต่งภาพเป็น และอื่น ๆ งานนี้ช่วยด้วยใจล้วน ๆ ขอเหล่านักธรรมมาร่วมทำงานธรรมเพื่อธรรมะ ต้องการด่วนบทความเก่าของอาศรมมาตาอ่านได้ที่นี้

ก่อนจะเข้าไปถึงภาพบรรยากาศต่าง ๆ ที่เก็บมาฝาก ขอแนะนำ ป่าธรรมสาวิกา เขต 4 ของอาศรมมาตา กันเสียหน่อย ....


ป่าธรรมสาวิกา เป็นที่ปฏิบัติธรรม เขต 4 ของอาศรมมาตา มีเนื้อที่ประมาณ ๓๙ ไร่ ล้อมรอบด้วยป่าไม้เบ็ญจพันธ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ สวยงาม และเป็นเสมือนรั้วธรรมชาติของเขต ๔ มีการปลูกไม้ป่านานาพันธ์เพิ่มเติม ประมาณ ๓,๐๐๐ ต้น และยังปลูกผลไม้ต่างๆ เช่น มะม่วง,ขนุน, มะไฟ, กล้วย และอื่น ๆ มีกุฏิกรรมฐานที่มีทางเดินจงกรมภายในกุฏิ 
โดยเขตนี้ คุณแม่เล็ก ท่านมีจุดมุ่งหมายไว้ดังนี้....
เขตนี้ค่ะ ชื่อธรรมสาวิกา
สำหรับฝึกคนกล้าทวนกระแส
ไหนไหนต้องเน่าเข้าโลงแน่
มาพิสูจน์ของแท้กันสักที
ก็ตายเสียก่อนตายที่หมายมั่น
ให้เห็นกันที่นี่และเดี่ยวนี้
วัฎสงสารมีนิพพานต้องมี
เป็นสิ่งที่บรรลุได้ในใจคน
กามกินเกียรติโกรธกลัวตัวหยาบหยาบ
ต้องกำหราบให้มันม้วยด้วยฝึกฝน
สร้างตบะพละห้ากล้าอดทน
ผู้หวังผลต้องเพียรแม้เจียนตาย
สติปัฏฐานทางเดียวเคี่ยวให้ข้น
จนเกิดผลวางว่างอุปาทานหาย
หมดยึดมั่นถือมั่นทั้งใจกาย
หมดการเกิดการตายอีกต่อไป
ไม่เหลือความพอใจไม่พอใจในโลกนี้
ไม่มีความยินดีไม่ยินดีในโลกไหน
ไม่ต้องการเกิดระหว่างโลกใดใด
โลกภายในใจไร้ทุกข์สุขนิรันดร์
ท.ทท. ประพันธ์ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๘

ภายในเขตนี้ มีศาลาไกรวัลย์ สำหรับฟังธรรม มีครัวโดดเดี่ยว สำหรับพักดื่มน้ำปานะ มีผลาญหินสิ้นกิเลส สำหรับเดินธุดงค์ไปฟังธรรมะ


วันแรกของการเดินทางมาถึง ของเหล่าผู้เข้าธุดงส์กรรมฐาน ต้องมาลงทะเบียน โดยมีอาวินนา เป็นผู้รับลงทะเบียน (ผู้ร่วมก่อตั้งอาศรมมาตา) ฝากสิ่งของ เงินทอง นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ และอื่น ๆ ไว้ ณ จุดลงทะเบียนกันก่อน จากนั้นก็ไปพบหัวหน้ากลุ่ม และเดินทางไปยังศาลาไกวัลย์เพื่อทำพิธีน้อมจิตรับกลด บาติ และบริขารทั้งหมด


จากนั้นก็ต้องไปลงมือกางกลดตามสถานที่ที่จัดไว้ให้ หรือใครชอบใจตรงไหนก็ตามสบาย  เมื่อเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เข้าสู่พิธีปฐมนิเทศน์จากพระอาจารย์วิทยากรทั้งสอง และคุณแม่เล็ก แล้วตัวเราเองก็แอบประทับใจ บทปลงสังขารของทางอาศรมมาตา ที่คุณแม่เล็กแต่งเองอีกแล้ว... (เสียดายมีวีดีโอเสียงคุณแม่ด้วย แต่เอาลงไม่ได้ อดฟังกันเลย เลยเขียนบทเล็ก ๆ มาให้อ่านกันก่อนแล้วกัน อยากให้ฟังเสียง จริง ได้ความรู้สึกจริง แต่ต้องไป ฟังที่อาศรมมาตานะค่ะ)






ที่พึ่งแท้จริง (บทแรก)

ก่อนกายนี้มันจะเน่า ขอให้เราจงมีที่พึ่ง จิตน้อมนำพระธรรมสุดซื้ง แล้วจึงหลับตาอำลาโลกเอย

บอกไว้ก่อน อ่านแค่นี้ ไม่ลึก ไม่ซึ้ง เท่าคุณฟังเอง สัมผัสเอง.... ประมาณว่า เสียงคุณแม่เสียบรูหูทะลุกลางใจเลยแหละ.... อยากให้ฟังจริง ๆ นะ.

จากนั้นก็ฟังธรรมะจากพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ ท่านเทศน์ธรรมะได้สนุกสนาน มีนิทาน เรื่องเล่า ที่ให้เราติดตามได้ตลอดไม่เบื่อ และสไตส์การเทศน์แบบ ปุจฉา - วิสัชนา (ถาม - ตอบ) Hello อยู่ไหม ไม่น่าเบื่อเลย สนุกมาก สำหรับคนรุ่นใหม่ ข้อคิดดี ๆ ที่ได้จากพระอาจารย์ตลอด 3 วัน ที่จำได้ และจะนำไปปฏิบัติ ก็คือ

1. เรื่องส้มตำ ..... (ไม่เล่า ให้ฟังหรอก ไว้ไปฟังท่านเอง)  แต่ว่า ได้ฟังแล้ว คุณได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน กับคนที่คุณรักแน่นอน.. อิอิ...
2. เรื่องคำมั่นว่า เราจะไม่ทะเลาะกัน หากทะเลาะกันให้กระซิบเบา ๆ ...
3. เรื่อง ความคิด พัฒนาการเป็น การกระทำ  การกระทำ พัฒนาเป็น ความเคยชิน ความเคยชิน พัฒนาเป็นนิสัย นิสัยพัฒนาเป็น สันดาน.... (หากจะแก้สันดาน ต้องแก้ที่..... คิดเอาเอง  หากจะแก้กรรม ต้องแก้ที่... คิดเอาเอง)
4. เรื่องนกฮูก ฉายานักปราชญ์ (หูตั้ง ตาโต ปากแหลม คอหมุน... มีความหมายนะ ใครตอบได้ ไปรับรางวัลเป็นเสื้อลายนกฮูก รู้นอก...ปลอดภัย รู้ใน...ไม่ทุกข์ ที่วัดพระอาจารย์เองนะ)
และอีกหลาย ๆ ข้อคิด ที่ท่านจะได้อีกมากมาย ตามแต่จิตจะน้อมรับพระธรรมคำสั่งสอนจ้า....

เมื่อฟังธรรมะจบ พระอาจารย์ครรชิต อภิญจโน ก็ได้ให้แนวทางในการทำวิปัสสนากรรมฐาน การตั้งฐานจิต การฝึกการรับรู้ ฝึกกายสร้างฐานจิตให้เกิดจิตผู้รู้ แนวทางสั้น ๆ ได้ใจความ ก็คือ การรู้แบบซื่อ ๆ รู้ที่ละครั้ง ที่ละครั้ง รู้แล้วจบ ไม่ต้องไปปรุงแต่งอารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิด พระอาจารย์ครรชิต ฝึกให้เราเคลื่นไหวมือแบบ 14 ท่า (คนที่เคยฝึก คงเข้าใจ เราอธิบายคงจะยาวไป อยากเราวีดีโอที่ถ่ายให้ดู แต่ก็ไม่สามารถอ่ะ) ข้อคิดดี ๆ ระหว่างเดินธุดงค์กรรมฐานที่ท่านได้สั่งสอนไว้ คือ

1. รับรู้แบบซื่อ ๆ ที่ละครั้ง ที่ละครั้ง ครั้งเดียวจบ ไม่ต้องรู้ตลอดการเคลื่อนไหว เอาแค่รู้เมื่อมีการกระทบเท่านั้น ครั้งแรกงงมากเลยค่ะ แต่พอได้ปฏิบัติไปก็รู้สึกเข้าใจ และเริ่มเข้าใจคำว่า รู้ที่ละครั้ง จับที่ละความรู้สึก รู้สึกแล้วจบ รู้สึกแล้วจบ ไปที่ละครั้ง ที่ละครั้ง ต่อไปจะใช้การจับความรู้สึกนี้ในชีวิตประจำวัน อยู่ที่ไหนก็ฝึกได้แล้วค่ะ
2. เรื่องเล่าจากผู้ป่วยมะเร็งปอด กายเราป่วย แต่จิตไม่ได้ป่วยไปด้วย ความรู้สึกเจ็บที่กายหากนำจิตไปจดจ่ออยู่ที่ความเจ็บความเจ็บน้ันจะมากขึ้น ก่อให้เกิดความกลัวความเจ็บและทำให้เราเจ็บมากจนขาดสติ แต่หากเราส่งจิตไปอยู่ที่อื่น ก็สามารถรับรู้ความเจ็บแบบซื่อ ๆ รู้ว่ามีเจ็บ มีหายเจ็บ มีเจ็บมาก มีเจ็บน้อย จนเข้าใจความเป็นธรรมดา ความไม่เที่ยงของมัน จะเห็นถึงการเกิดความเจ็บ การหายไปของความเจ็บ เป็นทีละครั้ง ทีละครั้ง เรื่องเล่าอันนี้ก็ประทับใจมาก ๆ ค่ะ (ไม่เล่าต่อ ไว้ให้ไปฟังพระอาจารย์กันเอาเอง..ค่ะ...)
3. การฝึกจิต ควรมีที่มั่น การฝึกดูกาย แล้วดูจิต จะทำให้จิตมีฐานที่ตั้งมั่นได้ดี การปฏิบัติสมถะสมาธิก็มีความสำคัญ ทำให้เรามีฐานที่มั่นในการฝึกจิต ได้ง่ายขึ้น 
และอีกหลาย ๆ เรื่อง ที่พระอาจารย์ท่านยกตัวอย่างในเรื่อง สติ การมีสติ การเจริญสติ เพื่อรับรู้ ให้มีสติตั้งมั่น แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติในชีวิตประจำวัน การฝึกจิต จึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำวิปัสสนากรรมฐาน

งานนี้ จิตจดจ่อไปกับการถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอไปหน่อย เลยเล่าได้เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบพอเป็นน้ำจิ้มให้คนอยากไปเจอะเองมากกว่า ประสบการณ์จริง ที่คุณจะได้สัมผัสเอง ครั้งแรกของการนอนกลด ครั้งแรกของการเดินธุดงค์ ครั้งแรกของการบิณฑบาตร ครั้งแรกของการกินข้าวในบาตร ครั้งแรก... อีกมากมาย ที่คุณสัมผัสได้จริง และคุณจะได้บันทึกเอาไว้เป็นไดอารี่ของคุณ ไว้ให้เล่าให้ลูกหลานต่อไปเลยจ้า........ ดังนั้น เอาเป็นว่า มาดูภาพกันดีกว่า ภาพที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ เป็นภาพที่ถ่ายมาเอง ล้วน ๆ สด ๆ ร้อน ๆ ไม่ผ่านการปรุงแต่ง แต่นำมาจัดวาง ทุกภาพทุกมุม คุณจะเห็นได้ที่อาศรมมาตา แห่งนี้ เพียงคุณเปิดตายอมรับ เปิดใจเรียนรู้ และเปิดโอกาสให้จิตคุณเอง

ฝีมือกางกลดครั้งแรก ของคุณหรือเปล่า...

ครั้งแรกของฟังธรรมะ เดินบิณฑบาตรใช่ไหม...
ต้นไทร ต้นโพธิ คือ ต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าเลือกแล้ว และวิทยาศาสตร์พบว่า เป็นต้นไม้ที่ให้ออกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมง.... คุณเชื่อหรือไม่....

ครั้งแรก... ของการเดินธุดงด์ของคุณหรอ....
บรรยากาศในเขตแดนธรรม... อาศรมมาตา...

ธรรมชาติ สอนอะไรให้คุณ........

ให้ดูแค่นี่ก่อนนะ ไว้อยากดู ไปดูเองที่อาศรมมาตานะจ๊ะ











พรที่ดีเลิศ (บทส่งท้าย)

ขอให้พรนี้แด่คุณ 
ถึงโลกเวียนหมุน ขออย่าให้คุณเวียนว่าย 
บรรจุถ้อยคำลึกซึ้ง ซึ่งกลั่นมาจากความตาย 
เป็นชาติสุดท้ายของคุณ
ท.ทท แม่เล็ก
โปรดติดตาม ตอนต่อไป ถ้ามีแรงเขียนต่อนะ....

ลืม ฝากหนังสือ อมตวลี Verses of Eternal Truth ของพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ ด้วยนะค่ะ เป็นสองภาษา (ไทย อังกฤษ) 




แด่พุทธสาวิกายอดนักรบ

กี่ล้านก้าวที่เหยียบย่างอยู่อย่างนี้
กี่สิบปีที่ย่างเหยียบอยู่อย่างเก่า
สร้างสติสัมปชัญญะให้จิตเรา
จนเห็นความไม่น่าเอาไม่น่าเป็น
มีแต่เกิดแล้วดับสลับเปลี่ยน
ทุกข์เท่านั้นที่เวียนมาให้เห็น
ทั้งกายจิตทุกขสัจจ์เห็นชัดเจน
ตามกฏเกณฑ์ไตรลักษณ์ประจักษ์ใจ
ก็จะหวังยึดอะไรสิ่งไม่เที่ยง
ทั้งนามรูปเป็นเพียงเครื่องอาศัย
ระลึกรู้เพื่อละวางว่างภายใน
เห็นอะไรสักแต่ว่ามายาลวง
ทุกข์ทางกายยังอยู่รู้เฉยเฉย
ใจที่เคยฝึกไว้ดีไม่มีห่วง
วิชชาเกิดประเสริฐกว่าค่าทั้งปวง 
ทำให้ล่วงทุกข์ได้ในชาตินี้

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาศรมมาตา โคราช สถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับผู้หญิง


จังหวัดโคราช อ.ปักธงชัย

สถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับผู้หญิง


เส้นทางการเดินทางไป อาศรมมาตา ดูจากแผนที่ ดังนี้



ขับไปทางโคราช ปักธงชัย กิโลเมตรที่ 42 ก็จะเห็นป้ายทางเข้าแล้วค่ะ



 
บริเวณเขตของอาศรมมาตาแบ่งออกเป็น 4 เขต

เขต 1 เป็นสำนักงาน ครัวหลัก สถานที่ปฏิบัติธรรม มีน้ำ มีไฟ มีที่พักหลายหลังด้วยกัน
เขต 2 เป็นเขตปฏิบัติธรรม ระดับ 2 มีที่พัก แยกเป็นหลัง ๆ มีห้องนอน ห้องน้ำ มีน้ำ แต่ไม่มีไฟ มีเทียนให้
เขต 3 เป็นเขตปฏิบัติธรรมที่เรียกว่า ห้องกรงน้ำ บ้านเป็นหลังอยู่ในป่า ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ห้องน้ำ ห้องครัว อยู่ด้านนอกของที่พัก เป็นการฝึกจิต อยู่ตัวคนเดียว ในที่จำกัดบริเวณ
เขต 4 เป็นเขตป่า มีบ้านพักอยู่ในป่า มีน้ำ ไม่มีไฟ บ้านพักกระจายอยู่ในบ้าน แต่ละหลังห่างกันออกไป คนละมุม





ศาลาปิตา เป็นห้องพัก คุณแม่เล็ก เจ้าของอาศรมมาตา และด้านบนชั้นสองเป็นห้องพระ ห้องประชุม ห้องปฏิบัติธรรม



หลังนี้คือ บ้านเขต 2 มีห้องนอน ห้องน้ำ ไม่มีไฟ ที่ตู๋ไปพักปฏิบัติธรรม
กลางวันสวยมาก แต่กลางคืน มืดมาก ๆ

คืนแรก ท้องฟ้า ดวงดาวสวยมาก ๆ ดาวเต็มท้องฟ้า คืนนั้นก็ฝันว่า เจ้าของที่ เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เข้าเดินมานั่งที่ข้างเตียง และบอกว่าเป็นเจ้าของเตียงนี้ ในฝันก็สวดมนต์ให้เขา และก็ขอเขาดี ๆ ว่ามาปฏิบัติธรรม กลัว ก็ กลัวค่ะ แต่ประมาณว่า ครึ่งหลับ ครึ่งตื่น

รู้แต่ว่า เขาก็โอเค พอใจ ยิ้มแย้มให้ แต่คืนที่สองก็ไม่ได้ฝันแล้วค่ะ หลับสนิทเลย

(ปล. ไปพักที่ไหนอย่างลืมไหว้เจ้าที่เจ้าทาง และบอกกล่าวเขาด้วยนะค่ะ)

 
บริเวณของบ้านพักเขตสอง ก็เป็นป่าไม่มีไฟ ทางเดินขึ้นลง ของบ้านพัก ไปเขต 1 ไปปฏิบัติธรรม
ต้องตื่นตี 4 อาบน้ำ ล้างหน้า ตี 4.20 น. เดินออกมาพร้อมไฟฉาย (เตรียมไปเอง) มืดมาก เสียงนก จิ้งหรีด ระงม มืดขนาดมองไม่เห็นทาง ไม่กล้ามองหันหลังไป เสียงอะไรก็ไม่ต้องไปสนใจ เดินอย่างเดียว ระยะทางจากบ้านพัก วิโมกข์ ไปถึง เขตหนึ่ง ก็ประมาณสัก 700 เมตร ได้มั่ง เดินประมาณ 10 - 15 นาที วันแรกไม่ชินทางเดินหลงนิดหน่อย เพราะมืดมาก (แต่มันก็เป็นตามทางนะ หลงได้ไงไม่รู้ อิอิ..)



ห้องพักก็มีเตียง ที่นอน หมอน ผ้าห่ม น้ำ 1 ขวด แก้ว 2 ใบ เทียน ธูป ไฟแช็ก ห้องน้ำ 1 ห้อง พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาดห้อง กับห้องน้ำ

ใช้แล้วก็ควรทำความสะอาดก่อนกลับ เก็บที่นอน ให้เรียบร้อยด้วยนะค่ะ




คุณแม่เล็ก อุบาสิกา ผู้ให้หลักธรรม

"คนเราเกิดมาเพื่อ ทำหน้าที่ของตนในฐานะต่าง ๆ ให้ดีที่สุด และเพื่อทำหน้าที่นำพาดวงจิตของตน ณ ปัจจุบันชาตินี้ให้หลุดพ้นจากกิเลสต่าง ๆ ให้มากที่สุด ยังผลเพื่ออนาคต"

"การฝึกวิปัสสนาตามหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า เปรียบเสมือนเรือที่นำเราไปสู่นิพพาน แต่เราต้องฝึกฝน อดทน และศรัทธา ที่จะขึ้นเรือพระธรรมวินัย ออกสู่ท้องทะเล มหาสมุทร ที่ต้องลมพายุ กว่าจะไปถึงฝั่งพระนิพพาน"

"การฝึกวิปัสสานา มีมากมายหลากหลายวิธี ตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านชี้นำ แต่สำหรับตัวของเรา
"สติปฐาน 4" เป็นทางสายกลางที่พระพุทธองค์ทรงเลือกมาให้เราแล้ว"

 


 
"ธรรมชาติที่รายล้อม มิใช่ให้เรามัวชื่นชม แต่เราควรเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเหล่านั้น ธรรมชาติจะสอนธรรมะ หรือหลักธรรมให้กับเรา" คำกล่าวนี้ จาก แม่ชีทิพย์


ที่อาศรมมาตา ท่านทานมังสวิรัติ ทุกวัน อาหารเหล่านี้ ล้วนเป็นผักปลอดสารพิษ ผักริมริ้ว ผักที่ญาติโยมนำมาถวาย เพื่อเป็นอาหารให้แม่ชี และผู้ปฏิบัติธรรมได้รับประทานกัน

ขอร่วมอนุโมทนากับทุกท่าน...


การเดินจงกรม ในป่าเขต 4 เหล่าแม่ชี และนักปฏิบัติธรรม ต้องเดินเท้าเปล่า เพื่อฝึกจิต และยอมรับตนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ



นิพพาน... สถานที่แห่งนี้ คือแห่งไหน ใคร ๆ อยากไปให้ถึง...
นิพพาน.... ซื้อหาไม่ได้ ใครให้ใครก็ไม่ได้ ใครพาใครไปก็ไม่ได้

รับรู้ได้...ด้วยจิตของตนเองเท่านั้น....

"ไม่มีใคร พาใครไปได้ แม้แต่พระพุทธองค์เอง ท่านก็ยังเคยตรัส ว่า แม้แต่ตัวท่านเองได้แต่ชี้ทางบอก ให้พระธรรมวินัยเป็นเครื่องมือให้ แต่มิสามารถนำใครไปสู่นิพพานได้ หากผู้ใครต้องการไปสู่นิพพาน ก็ต้องปฏิบัติวิปัสสนาเอาเอง รู้ได้ตัวตนเอง ไปได้ด้วยตนเอง เช่นกัน"






แม้แต่สุนัขในสถานที่นี้ ยังชอบเดินจงกรมไปกับเหล่าแม่ชี เป็นทั้งผู้นำทาง และเป็นผู้ติดตาม






ลานหิน "ผลาญหินสิ้นกิเลส" ปลงกับตนเอง สลายธาตุในร่างกายตนให้กลายเป็นไอเดียวกับธรรมชาติ

คุณแม่ชีไพเราะ "ธรรมะคือธรรมชาติ การฝึกตนให้เข้าถึงธรรมะ คือ การน้อมจิตของเราให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมะชาติ"


กิเลสนี้ มากนักหนา
เอามันมา ผลาสไปให้สิ้นเสีย...

(คิดต่อบ่ออกเด้อ....)




สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้กับสรรพสิ่งในพิภพ...ทุกภพภูมิ

เสียงสวด ดังก้องในดวงจิต
วิญญาณสั่นสะท้าน รับรู้
เสียงสวด ไพเราะ เสนาะหู
สะท้านจิต ผู้รู้ รับฟัง....

ธรรมะอยู่ที่ตัวเรา มิต้องไปค้นหาที่ใด หนังสือธรรมะ บอก พระธรรมวินัย เครื่องมือในการเรียนรู้ธรรมะ แต่เราจะเข้าใจหรือค้นพบ ตัวรู้ จิตผู้รู้ ได้หรือไม่ อยู่ที่ตัวเราต้องปฏิบัติเอง

การเห็นซึ่งทุกข์ หากเราไม่เอาความรู้สึกไปมีส่วนร่วมด้วย เราจะเห็นว่า ความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ ก็ดับเองได้ แต่หากเรานำอารมณ์หรือจิตไปร่วมด้วย ความทุกข์ก็มีพลังที่ขยายตัวสุดท้ายก็กลับมาทำลายตัวเองเลย....

อาศรมมาตา สถานที่ปฏิบัติธรรม ผู้ใฝ่หาแสงสว่างแห่งดวงจิต .....

ความประทับใจ...

คุณแม่เล็ก.... ตู๋ประทับใจในความเมตตาของท่าน คุณแม่ให้แง่คิด หลักธรรมะ แก่นของพระธรรมวินัย หลักการปฏิบัติในแบบฉบับย่อที่ชัดเจน คราวนี้ก็อยู่ที่ตัวตู๋เองแล้วค่ะ ว่าจะขยัน อดทน มีมานะ เพียรพยายามฝึกตนเองแค่ไหน บอกไม่มีเวลาคงไม่ใช่ข้ออ้างแล้วค่ะ ในเมื่อ การดำเนินชีวิต ทุกขณะจิต มันคือ การฝึกวิปัสสนาได้ทั้งนั้น ....

คุณแม่ชีไพเราะ... ตู๋ประทับใจในแนวความคิด ปรัชญา ของการฝึกธรรมะโดยการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ การนั่งสมาธิแบบลืมตา การน้อมจิตให้เข้ากับธรรมชาติ รู้สึกดี สดชื่น และเหมือนร่างกายได้รับความรู้สึกของธรรมชาติมากขึ้นค่ะ

คุณแม่ชีถนอม... ตู๋ประทับใจแนวทางฝึกจิต ตู๋ฝึกมายังไง ก็ไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงได้ คุณแม่ได้ให้แนวทางวิธีเริ่มต้นในการปฏิบัติ ตู๋จะพยายามนำกลับไปฝึกฝนค่ะ

แม่ชีทิพย์... ตู๋ประทับใจในอัธยาศัย ความมีเมตตาของพี่แม่ชีมาก ขอบคุณสำหรับคำสอน แนวความคิดดี ๆ ที่แนะนำตู๋ ขอบคุณค่ะ

แม่ชี น้อง ๆ ทุกคน... ตู๋ประทับใจในอัธยาศัย ความเป็นกันเอง ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ตลอดจนแนวความคิดในการปฏิบัติธรรมของแต่ละท่าน ขอบคุณที่แบ่งปัน...ประสบการณ์กันค่ะ