วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

เที่ยวทะเลหาดพัทยากับวัดหัวลำโพง จริงอ่ะ งง....

พัทยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน เนื่องจากพัทยาอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมากนัก พัทยาเป็นสถานที่เหมาะสำหรับพักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ การเดินทาง ปัจจุบันสะดวกมาก ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชม ก็ถึงชายหาดพัทยาแล้ว (รถเก่า ๆ แบบเรา วิ่ง 100 km/hr ก็ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทาง 158 km)

ทริปเที่ยวทะเลพัทยาครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยการโทรศัพท์มาชวนไปทะเลในเช้าวันหนึ่งเวลา 10 โมงของเช้าวันอังคาร์ มิได้มีการนัดหมายแต่อย่างใด (เคยนัดแล้ว เลื่อนไปเรื่อย ไม่มีกำหนด เลยไม่นัดดีกว่า ว่างเมื่อไร ไปเมื่อนั้น...)
จุดมุ่งหมายมีเพียงอย่างเดียว
คือ ความอยาก.... อยากไปเปลียนบรรยากาศหนีจากกรุงเทพ ที่วุ่นวายไปด้วยกลุ่มคนเสื้อสี....ตู๊ต ตู๊ด (เสียงโดนดูดไป จึงต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจกันเอาเอง...) ดังนั้น เพียงแค่คุณโทรมา เราก็พร้อมไปได้ทันที จุดหมายคือ พัทยา ไปแน่ ๆ คำตอบเดียว ไม่ต้องคิดไป เจอะกันกี่โมงว่ามา พร้อมลุย ด้วยอารมย์กระดี้กระด้า จะได้ไปเที่ยวแล้ว ไปทะเล ไปทะเล เย้ เย้ ร้องเพลงไป อาบน้ำแต่งตัว "ไปทะเลกันดีกว่า เอาชุดว่ายน้ำไปด้วย จะไปเล่นน้ำ เล่นเจ๊ดสกี อิอิ...ว้าว ๆ ว้าว ในใจคิด แต่ด้วยภาพพจน์ของความเป็นผู้ใหญ่ ก็เอาเป็นประมาณว่า ไปนอนเล่นที่ชายหาด อ่านหนังสือ ทานอาหารทะเล ประมาณนั้นพอ.... (แนวผู้ใหญ่... แค่พักผ่อนเป็นพิธีการ หรือเราจะเริ่มแก่แล้วนะ เหอ..เหอ...)

แต่กว่าจะพร้อมออกเดินทางไปถึงที่นัดพบก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่าแล้ว ตกลงกันว่าขึ้นทางด่วนยกระดับไปกันเลยแล้วกัน ทางด่วน ถนนดี วิ่งตรงตามทาง เสียอยู่ 2 อย่างคือ
  1. ปั๊มน้ำมันก็มีแค่แห่งเดียว คือที่จุดพักรถ ดังนั้น คิดให้ดีก่อนออก start ว่ารถเราน้ำมันพอไหม สมาชิกต้องการเข้าห้องน้ำหรือเปล่า หิวหรือเปล่า คิดให้ดีก่อน หรือต้องเตรียมสเบียงไหม คิด ๆ ๆ 
  2.  ถึงจะเป็นเส้นทางเดียว แต่ต้องเสียค่าผ่านทาง 3 ครั้ง รวม ๆ ก็ 90 บาทได้ แล้วมันทำไมไม่เก็บที่เดียวเลยวะเนี่ย เสียทั้งกำลังคน ต้องจ้างคน ถ้ารถเยอะ ก็ทำให้รถติดด้วย (คิดได้นะคนไทย...)
ปล. แนะนำสักนิด สำหรับรถที่ใช้แก๊ซโซฮอล์ 91 ให้เติมมาให้เรียบร้อย เพราะปั๊มที่พัทยา และข้างทาง บ้างครั้งไม่มี มีแต่ 95 แพงมาก ๆ ครับผม ไม่คุ้มครับไม่คุ้ม

บ่นมาเยอะ มาเข้าเรื่องที่ริมหาดพัทยากันหน่อย วันนี้วันธรรมดา คนน้อย เลือกได้ตามสบาย บรรยากาศก็ประมาณรูปที่ถ่ายมาให้ดู กิจกรรมริมหาดก็มีทั้งเล่นน้ำ เล่นเจ๊ตสกี เล่นร่ม ปล่อยนก ทานอาหารทะเล และดูหมอ (ดูดวงนั่นเอง)
หาดพัทยา เต็มไปด้วยร่มหลากสีสรร และเตียงชายหาด มีให้เลือกมากมาย ไล่ตั้งแต่หาดพัทยาเหนือ กลาง และใต้ ชอบตรงไหน จอดรถได้ตรงไหน เชิญ สงวนราคา เตียงละ 50 บาท (แพงขึ้น)

พวกเราเริ่มต้นกันที่ น้ำมะพร้าวอ่อน (ตอนนี้ราคาแพงมาก ลูกละ 25 บาทแล้ว... เห็นว่าเพราะอากาศโลกที่ร้อนขึ้น ทำให้ผลอ่อนร่วง มะพร้าวขาดตลาด แย่มาก ๆ ) เมื่อเลือกที่ได้แล้ว เมนูอาหารก็ตามมาทันที สั่งได้มีทั้งส้มตำ ยำ ผัด ทอด ไก่ย่าง อาหารตามสั่ง จะเอาอะไรก็ได้ ส่วนบรรยากาศ ก็อากาศร้อนมาก ๆ ลมทะเลเหนียวตัวไปหน่อย ไม่เหมือนทะเลภาคใต้ แต่ก็ยังสดชื่น ดีกว่าอยู่กรุงเทพอ่ะนะ ชิว ๆ แล้วกัน (สบาย ๆ แล้วกัน อย่าคิดมาก)

ที่น่าสังเกต และแปลกใจสำหรับเรา ก็คือ ทะเลหาดพัทยา มีนกพิราบอ่ะ นกพิราบอ่ะนะ มีได้ไง เพิ่งรู้ หรือจะมีนานแล้ว ไม่เคยสังเกต .... ใครรู้ตอบหน่อยซิ ว่ามีนกพิราบด้วยหรอ ทะเล...งง...จัง

บรรยากาศพัทยา เงียบ ๆ สงบ ๆ แบบนี้ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ เคยเห็นแต่คนเยอะ ๆ ตอนนี้เงียบ เหมาะแก่การพักผ่อนจริง ๆ .... ง่วงแล้วซิ...แต่ไม่ทันได้นอน มีกิจกรรมดูหมอมาทักทาย ถึงที่นั่ง เอาหน่อยแล้วกัน...

หมอดูไพ่ยิบซี (ราคา 99 บาท ซื้อ 1 ไม่แถม 1 ดังนั้น ต่างคนต่างจ่ายอ่ะ.... แย่จัง โดนแซวกลับอีกว่า ต่อเป็นซื้อเสื้อเลย อิอิ...) ผลการทำนายก็ออกมาดังนี้..............

ดวงพวกเรา ดีทั้งคู่
  • การงานดี (จริงอ่ะ...) 
  • อนาคต...รวย (จริงเหรอ....) 
  • มีเนื้อคู่...เป็นคู่แท้ แต่อาจมีกิ๊ก (อ้าว...ได้ไงเนี่ย) 
  • จะได้แฟนเด็ก...เอาะ ๆ (ไม่เอา ขี้เกียจส่งเรียน...อิอิ...) 
  • ออ... เราสองคนคบกันได้...(รอดไป ถ้าหมอบอกคบกันแล้วไม่ดี แยกทางกันทันทีนะเนี่ย...) 
ซึ่งโดยสรุป อนาคตเราสอง รุ่งโรจน์ชัชวาลย์.............................. แต่ต้องลำบาก ทำงานหนัก อดทนมากเลยนะ........(แป๊ว...แป๊ว....) ซึ่งควรไป ๆ ไปทำบุญโรงศพทั้งสองคนเลย... อ้าว....งั้นไป แล้วดวงดียังไงเนี่ย

ทายเสร็จปุบ  พวกเราสรุปกลับบ้านปั๊บ ไปทำบุญดีกว่า เพื่ออนาคตที่รุ่งโรจน์ชัชวาลย์... เก็บของ เลิก ๆ กลับกรุงเทพ ไปวัดหัวลำโพง ....ทำบุญโรงศพ...(คิดแล้วทำเลย... เอารถไปจอดที่พระรามเก้า ขึ้น MRT ไปลงสามย่าน ถึงวัดหัวลำโพงทันที...) สะดวกรวดเร็วค่ะ

ทริปนี้จึงกลายเป็นว่า ... วันเดียวเที่ยวสองที่ (พัทยา...กับวัดหัวลำโพง...เข้ากันไหมอ่ะ...) สนใจสอบถามเส้นทางทัวน์แบบพวกเรา ซึ่งไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะเป็นการทัวน์ที่เอาแต่ใจมาก ๆ .............. จบแล้ว...

...งง หรือเปล่า จบจริง ๆ บายค่ะ แล้วพบกันใหม่

ปล. ต้องขออภัยที่ทริปนี้ถ่ายรูปมาน้อย เวลามันสั้นไปหน่อย อารมย์ยังไม่บรรเจิด ไ
ว้คราวหน้านะค่ะ

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

 มนุษย์และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ "ตาย" หมายถึง สภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว ทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ   

1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ

2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว

3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท 



ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)

- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย

- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ

- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติที่โสโคร กและสกปรก 


เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน? 


ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ชะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่ 


วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า "อนันตริยกรรม" มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2. ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระอรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพทุธเจ้าห้อเลือด 

หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่ รู้ว่าตัวเองตาย 7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดี ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับงานศพ 


เรามาดูปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น 


เจ็ดวันรอบแรก 


วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น ก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย 


เจ็ดวันรอบที่ สอง 


เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้น

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย 

เจ็ดวันรอบที่ สาม 


เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม ยามมีชีวิตทำชั่วอะไร ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอั ตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด 


เจ็ดวันรอบที่ สี่ 


เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์ 


เจ็ดวันรอบที่ ห้า 

วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกห ลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์ 

เจ็ดวันรอบที่ หก 

เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให??ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา 

เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด 

เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกิเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็จักลหุโทษ ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว. 

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ... 


วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

เที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชัน และดอนหวาย

สงกรานต์ปี 53 นี้ เที่ยวกรุงเทพ จะไปไหนดี ออกนอกบ้านทุกวัน จะไปห้างแถวสยามก็ปิด ไปทางโน้นก็มีสี ไปทางนี้ก็มีสี จะไปไหนดีหนอ....

ชาวกรุงเทพอย่างเรา หนีร้อนไปเที่ยวห้าง นั่งร้านกาแฟ ทานเค็ก ดื่มกาแฟ กินไอศรีม ไปต่อที่ร้านอาหาร ฟังเพลง วัน ๆ หมดไปเป็นพัน ไม่ได้การเสียแล้ว เบื่อ ๆ เบื่อ ๆๆๆๆๆ

หันไปหยิบหนังสือขึ้นมาเล่ม หน้าปกเขียนว่า "ตลาดบก ตลาดน้ำ"


เอ๊ะ! เอะ!!! น่าสนใจ เปิดอ่านแล้ว จ่ายตังค์ เอากลับไปอ่านต่อที่บ้านดีกว่า...

ได้แล้ว เที่ยวตลาดน้ำในกรุงเทพ แห่งแรก ที่แนะนำคือ "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" ไปไม่ไกลเลย วิ่งไปเส้นติวานนท์ สะพานพระรามห้า ออกราชพฤกษ์ เลี้ยวซ้ายออกไปทางสน.ตลิ่งชัน แล้วจะเห็นป้ายเลี้ยวเข้าตลาดน้ำตลิ่งชัน ตรงเข้าไปตามป้ายเลย....

ตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นตลาดน้ำไม่ใหญ่มากมาย เดินได้พอดี ไม่เหนื่อย ร้านอาหารให้เลือกซื้อมากมาย พร้อมนั่งรับประทาน

ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางขุนศรี หรือที่คนทั่วไปคุ้นเคยเรียกกันติดปากว่า "คลองชักพระ"


ที่จอดรถใกล้ สะดวกอยู่หน้าสำนักงานตลิ่งชัน หรือจะจอดในสน.ตลิ่งชันก็ได้ ไม่ต้องเดินไกล เหมาะพาคุณพ่อ คุณแม่ได้ค่ะ มีทั้งขนมหวาน กุ้งเผา ปลาช่อนเผาเกลือ ผัดไทย รสชาดก็เลือกได้ตามใจชอบค่ะ

หลังจากแวะที่ ตลาดตลิ่งชัน แล้วยังไม่พอ เราขับรถไปกันต่อที่ ตลาดน้ำดอนหวาย ใกล้วัดไร่ขิง ซึ่งเป็นตลาดโบราณ ติดริมน้ำแม่น้ำท่าจีน สามารถจอดรถได้หลายที่ด้วยกัน เช่น ที่วัดดอนหวาย หรือเลยมาทางไปวัดไร่ขิง จะมีที่จอดตรงทางเดินเรือโบราณ หรือซอยใกล้โลตัสเอ็กเพรส จอดที่อื่นเสีย 20 บาท จอดที่วัดฟรี แต่ถ้าอยากบำรุงที่จอดของวัด ก็ใส่กล่องบริจาคได้ค่ะ

ของกินที่ ตลาดน้ำดอนหวาย เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน ขนม น้ำ ผลไม้ ผัก ต้นไม้ มีให้เลือกมากมาย เดินกันไกลกว่า ตลาดน้ำตลิ่งชัน คนก็เยอะกว่า วันเสาร์อาทิตย์เดินเบียดกันหน่อย แต่ของกินอร่อย ๆ มีเยอะ ที่เราซื้อ และ confirm ว่าอร่อย มี 

1. ขนมตาล ป้าไข่ (อร่อย หอม แต่ควรกินร้อน ๆ )
2. ฝรั่งหวาน (พันธุ์กิมจู) ร้านสองสาว ที่เน้นขายแต่ฝรั่ง มีน้ำจิ้ม น้ำตาลมะพร้าว กับน้ำจิ้มกะปิ
3. แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย (อันนี้เห็นชัดมีเจ้าเดียว ทำสด ๆ โชว์กันเห็น ๆ คุณพ่อชอบมาก....)
4. เป็ดย่าง อ้าว..จำชื่อไม่ได้ แต่เป็นร้านเดียวที่ขายเป็ดย่าง อยู่ซอยเดียวกับแกงเขียวหวาน เจ้านี้หมดเร็วมาก ควรมาก่อนเที่ยง อร่อยมาก ๆ พอ ๆ กับเป็ดย่าง MK

และยังมีอีกหลายร้านค้า ต้องลองไปเที่ยวซื้อหากลับมากินกันนะค่ะ อิ่มกันจนท้องจะแตกแล้ววันนี้ แถมของฝาก ของซื้อเต็มมือ หอบเดินกลับไปที่รถ สองมือ หนักมาก ๆ ... เวลายังเหลือ มองหน้ากันไปไหนดี ไปไหว้พระซิ ... แต่ไม่เอาวัดดัง ๆ นะ อ้าว ..... โจทย์ยากจัง ไปวัดไหนดีนี่.... ขับรถไปเรื่อย ๆ แล้วกัน หาวัดข้างทาง 

ออกจากตลาดดอยหวาย ไปทางสวนสามพราน หรือ อ.สามพราน เห็นป้ายวัดท่ากระบือ หลวงพ่อรุ่ง ไหว้ราหู อืมน่าสนใจ ไปกันเถอะ.... ขับเลี้ยวซ้ายเข้าไป แล้วก็ขับไปเรื่อย ๆ ตามทาง จะมีป้ายบอกตลอดค่ะ 


วัดท่ากระบือ สามพราน นครปฐม วัดหลวงพ่อรุ่ง 
ประตูทางเข้าวัดไม่ใหญ่มาก ที่จอดในวัดก็ไม่เยอะ แต่พอลงไปเดินปรากฏว่าวัดใหญ่พอสมควร ติดริมน้ำ อากาศดี บรรยากาศดี เดินมา เห็นรูปพระราหู และบทสวด คำแนะนำในการไหว้ ก็เลยได้ทราบว่า วัดนี้เป็นวัดที่นิยมมาทำพิธิสะเดาะเคราะห์ หรือมาไหว้ราหูกันนั้นเอง ส่วนหลวงพ่อรุ่ง ท่านก็เป็นพระชื่อดัง ที่กล่าวขานกันว่า ทำการค้ารุ่งเรือง แนวเมตตามหานิยม ประมาณเนี่ย เราเองไม่ค่อยรู้เรื่องนักหรอกเรื่องพระเรื่องเจ้าอ่ะ

ได้เข้าไปถวายสังฆทานให้กับหลวงพี่รูปหนึ่ง ท่านพรมน้ำมนต์ แจกหนังสือสวดมนต์ และให้สายสินธุ์พวกเราด้วย ออกมาก็ไปปล่อยปลาไหล และกบ ซึ่งพี่สาวที่เป็นแม่ค้าบอกว่า ปล่อยกบ เป็นการขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร เราเองก็พี่งรู้ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ปกติ ปล่อยแต่ปลา ปล่อยแต่เต่า ....

เมื่อทำบุญ ไหว้พระ ถวายสังฆทาน ปล่อยปลา ปล่อยกบ กันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับ ... ระหว่างนั่งรถกลับก็คุยกันเรื่อง ถวายสังฆทาน และหลวงพี่ที่พรมน้ำมนต์ ว่า ... ท่านสวดคาถาไปด้วย รดน้ำมนต์ไปด้วย คาถายาว พวกเราเลยโดน น้ำมนต์กันเสีย หัวเปียกเลย ... สรุปกลายเป็นเรื่อง ชวนหัว ขำกันซักงั้น.... 555555.......

เที่ยวคราวนี้.... ไปแบบงง ๆ หลง ๆ นิด ๆ แต่จบแบบ Happy นะจ้า ไว้พบกันใหม่คราวหน้า ไปไหน จะกลับมาเล่าให้ฟังจ้า... 

บาย.........

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

การสร้างรายได้ด้วยการ Search (ค้นหา)



Mylook คืออะไร? mylook คือเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล โดยการ Search โดยปกติคนส่วนใหญ่จะใช้ Google ในการค้นหา แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ใช้ของบริษัทอื่น เช่น FireFox,AOL,Yahoo,Ask หรือ Browser ตัวอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งมีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียง และMylook เป็นอีกตัวหนึ่งที่กำลังมาแรง โดยการโปรโ ของ Mylook เป็นอะไรที่แตกต่างจากการโปรโมทของตัวอื่นๆ โดยมีวิธีสมัครและแผนการตลาดดังนี้
วิธีการสมัคร สมัครฟรี โดยกรอก อีเมล์ ตั้งรหัสผ่าน ยืนยันรหัสผ่าน จากนั้นก็เข้าไปคลิกลิงค์ยืนยันในอีเมล์ของท่าน ล็อกอินสู่ระบบ เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างรายได้ ได้แล้ว โดยแผนรายได้มีดังนี้
อัตรารายได้ ท่านจะมีรายได้โดยการค้นหาข้อมูล 1 คำค้นหา = 0.22$ โดย 1 วัน ท่านสามารถค้นหาได้ 5 ครั้ง ไม่จำเป็นว่าจะค้นหาคำว่าอะไร ท่านก็จะได้รับรายได้ต่อวัน 1.10$ทุกๆ วัน โดย 1 เดือนท่านจะรับรายได้ 33$ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 1,100฿ นอกจากนี้หากท่านนำลิงค์แนะนำไปบอกคนรู้จัก แล้วเขาได้ทำการสมัครผ่านลิงค์ของคุณ คุณก็จะได้รับจากสมาชิก 20% ที่เขาทำได้ ยกตัวอย่างเช่น ท่านมีสมาชิก 1 คน เขาได้ค้นหา 5 คำค้นหาใน 1 วัน ท่านก็จะได้รับจากเขา 1.10x20/100=0.22 $ หมายความว่าท่านจะได้รับจากสมาชิก 0.22$ ต่อคน ต่อวัน
ความน่าจะเป็น และถ้ามองไปไกลกว่านั้น หากท่านมีสมาชิก 100 คนล่ะ ท่านจะมีรายได้เท่าไหร่ มาคำนวณกันเลย 0.22$x30วัน x100คน=660$ หรือตีเป็นเงินไทย660$x33฿=21,780฿ แล้วแต่ค่าของเงินด้วย แค่นี้พอไหมครับ และคุ้มค่ามากกว่านั้นเพราะหาสมาชิกได้ไม่จำกัดจำนวน ตามต้องการ
ระบบการจ่ายเงิน ยังไมแน่ชัดเนื่องจากว่า mylook นั้นจะทำการเปิดตัวในเร็วๆ นี้ โดยจะเปิดตัววันที่ 15 เมษายนนี้ ช่วงนี้สมัครสร้างรายได้ฟรี หลังจากเปิดตัว ท่านจะเสียค่าสมัคร ดังนั้น สมัครตอนนี้ ฟรีทุกอย่าง ได้เปรียบคนอื่นด้วย เนื่องจากยังเป็นที่รู้จักน้อย


สร้างรายได้ง่ายๆจาก การ ค้นหา 1 การค้นหา 0.2$
1 วันทำ 5 ครั้ง รับ1 $ 15 วัน 15 $ รับเงินทันที
ชวนเพื่อนเยอะรับ เยอะ สมัครง่าย


สมัครสมาชิก
























เราเองก็ลองทำดูแล้ว คิดว่าไม่ยาก ไม่ลำบากอะไรในแต่ละวัน ก็มาลองดูไปด้วยกัน ได้เงินเมื่อไหร่แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะจ๊ะ


พบปัญหาแล้วจ้า ทำไปได้แค่ 3 วัน ปรากฏว่่าเข้า web มันไม่ได้ น่าจะเป็น server ล่ม ของไม่ดีอ่ะนะ เซ็งอ่ะ


แนะนำเพิ่มเวปนี้ก็ง่าย เปิดทิ้งไว้อย่างเดียว ลองดูนะ MyGPT