วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

ภาพบรรยากาศวันปิดภาคเรียน

วันปิดภาคเรียน 31 มกราคม 2554 กับการอบรมแปรรูปสมุนไพร อ.บี

วันนี้เพื่อน ๆ ก็มากัน หน้าเดิม ๆ เจ้าเก่า สนุกสนานกันเหมือนทุก ๆ วัน ตลอดการอบรม 


วันนี้ แต่งตัว กันสวยงาม พร้อมเพรียงกันมาก ๆ เลย

บรรยากาศสนุกสนาน ทั้งการพูดคุย และการถ่ายรูป 

คู่ซี้ ต่างวัย หัวใจเดียวกัน เสื้อยังสีเดียวกันเลย....

แกงค์ สามสาว ตะลุยเรียน หาความรู้ เป็นแกงค์ สาว สาว สาว 
ไปไหนไปกัน....

วันสุดท้าย ขอทิ้งท้ายด้วยการทำ ครีมกระชับใบหน้า ไปเพิ่มความสวยหน่อย....

ขอบคุณอาจารย์บี และสถานที่อบรมดี ๆ ที่ทำให้พวกเรามีความรู้....

ไปไหน มาไหน ถ้าไม่ถ่ายกับป้าย... จะไปไม่ถึง และกลับไม่ได้...

มีวันพบ ก็ต้องมีวันจาก... งานเลี้ยงปิดคอร์ส ก็จบที่ MK .....

เย้.... กินฟรี.....

สองสาว...พี่หนุ่ย พี่ไอซ์ ต่างฝีมือ แต่ใจสู้....เหมือนกัน

พี่แขก กับ sunshine ต่างจุดหมาย แต่ใจตรงกัน... เลือกมาเรียนเหมือนกันไง...(อิอิ...)

ทีม...ซู่ซ่า... ท้าวัย... สามสไตส์ แต่...สู้...ไม่ถอย 
พี่ไอซ์ ลุงสานิตย์ และกุ๊กไก่....

อาจารย์บี กับพี่วิ .... สวยต่างวัย แต่ใจเดียวกัน...

สี่คน กับหม้อเดียว ... กินก็ไม่หมด...

หม้อเรา มี 5 คน เกลี้ยงเลย พี่ไอซ์เก็บเกลี้ยง....

อร่อยขนาดไหน...ดูเอาเอง....

ภาพบน...ตัวอย่างความไม่สุภาพ (กุ๊กไก่)
ภาพล่าง..... ตัวอย่างผู้ดีกิน (พี่หนุ่ย) 
จำไว้ด้วยนะ กุ๊กไก่....



มือหนึ่งอยู่ในหม้อ .... อีกมือ ก็จับจอง...อีกถาดไว้... 

โห... sunshine เพลา ๆ หน่อยดีไหม....


เล่นกล้องกันสองคน... แต่หน้าตา ดูไม่ได้นะ...

เย้... มองกล้องกันทุกคนแล้ว....

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา แต่มิตรภาพยังคงอยู่ อย่าลืมติดต่อกันบ้างนะจ๊ะ

ตู๋




วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

ภาระกิจทำความดี

คุณเคยคิดจะทำความดีกันหรือเปล่าค่ะ.... ภาระกิจการทำความดีของเราสองคน เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ที่เริ่มนัดกัน ไปบริจาคโลหิตทุก ๆ 3 เดือนที่สภากาชาดไทย และก็พัฒนาการไปเรื่อยๆ ด้วยการเริ่มต้นเป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์หนังสือธรรมะ โดยชักชวนเพื่อน ๆ ที่สนิทกัน มาร่วมทำบุญนี้ด้วยกัน (การจัดพิมพ์หนังสือธรรมะเรื่อง “อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม”


ซึ่งเป็นหนังสือธรรมะ ที่อ่านเข้าใจง่าย ทำให้เรารู้สึกกลัว การกระทำ หรือ กลัวกรรม ไม่อยากทำกรรม หรือ กระทำสิ่งไม่ดี และเรียนรู้ที่จะรู้จักความตาย หรือเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตาย อย่างมีสติ.....



เพื่อนที่อ่าน และเราจึงเห็นพร้องกันว่า อยากจะเป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์หนังสือธรรมะเล่มนี้ เพื่อนำไปแจก ให้ผู้ป่วย หรือ ผู้มีความทุกข์ ได้อ่านมัน.... (เราอาจเคยร่วมทำบุญจัดพิมพ์หนังสือ แต่ยังไม่เคยตั้งตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดพิมพ์เองเลย เล่มนี้จึงเป็นเล่มแรกของพวกเรา) 


พวกเราแบ่งหน้าที่กันทำงาน ติดต่อโรงพิมพ์ กระจายข่าว และรับหนังสือ จัดส่งหนังสือ และภาระกิจอีกอย่างที่เห็นชอบกันก็คือ การตะแวนนำหนังสือธรรมะเล่มนี้ ไปแจกตาม โรงพยาบาล..... 


พวกเริ่มต้นกันที่ โรงพยาบาล รามาธิบดี ที่อนุสาวรีย์ ด้วยความไม่รู้ และไม่เคย ก็เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำที่ดี และแนะนำให้เราสามารถไปตามตึกต่าง ๆ และเข้าไปติดต่อตามแผนก หรือห้องคนไข้ได้เลย ด้วย ซึ่งพวกเรา จึงทำตาม ไม่ว่าจะเป็นตึกอายุรกรรม ตึกฉุกเฉิน หรือตึกคนไข้ผ่าตัดหัวใจ บางก็ให้ไปวางตามชั้นหนังสือของแต่ละแผนก บางก็ให้ฝากเจ้าหน้าที่ไว้ 
ถึงแม้ว่า.... การกระทำครั้งนี้ อาจดูแปลก ๆ แต่พวกเรา เรียกมันว่า ภาระกิจการทำความดี และแม้ว่า พวกเราจะไม่ได้เห็นใบหน้า หรือรับรู้การกระทำว่าพวกเรา หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับหนังสือเราไปนั้น พวกเราเห็นประโยชน์หรือคุณค่ามันแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเรารับรู้ และรู้สึกได้ ด้วยตนเอง คือ ความภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบ ธรรมะ อันเป็นพระธรรมตัวแทนของพระพุทธเจ้า ให้กับทุกคน


และหากแม้ว่า .... บุคคลใดที่ได้อ่านบทความนี้ เราขอให้ท่านร่วมอนุโมทนาจิต ร่วมกันเถิด เพื่อให้บุญกุศลนี้ จงประสบแด่ทุกท่านที่ร่วมอนุโมทนาบุญครั้งนี้ และเพื่อน ๆ ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดพิมพ์หนังสือครั้งนี้ด้วยนะจ๊ะ


ปล. ภาระกิจครั้งแต่ไป เราจะไปกันที่ ศูนย์มะเร็ง.... จ้า
ปล. อีกครั้ง มิได้เก็บภาพมาฝาก เพราะคงไม่สะดวกถ้าจะถ่ายภาพในโรงพยาบาล หรือภาพต่าง ๆ ซึ่งอาจดูไม่ดีนะจ๊ะ จึงได้แต่มาเล่าสู่กันฟังจ้าาาาาา






วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

เพราะฉันขัน ตะวันจึงขึ้น ท่าน ว.วชิรเมธี


เพราะฉันขัน ตะวันจึงขึ้นอย่าทำงานจนป่วยตาย อย่าหลงใหลตัวเอง 

โดย ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย 

ที่วัดเซนแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีไก่อยู่ครอบครัวหนึ่ง หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้บริหารที่เก่งมาก กางปีกปกป้องภรรยาและลูกทุกตัว อยู่กันมาอย่างมีความสุข ทุกๆ เช้าเวลาตีห้า ไก่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวจะบินขึ้นไปเกาะอยู่บนกิ่งไม้ และโก่งคอขันเสียงก้องไปทั้งพงไพร ประมาณหกโมงเช้า พระอาทิตย์ก็จะอรุโณทัยฉายแสงขึ้นมาส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งสากลโลก ไก่สี่ตัวนี้จะมีความสุขมากที่ได้เห็นตะวันค่อยๆ ทอแสงสุขสว่างขึ้นมา เขาจะยืนชื่นชมแสงตะวัน และก็ยืนภาคภูมิใจว่า เพราะฉันขันตะวันจึงขึ้น มีความสุข นี่คือผลงานของฉัน 

ทุกๆ เช้าไก่ตัวนี้ก็จะบินขึ้นมาเกาะกิ่งไม้ และเมื่อขันเสร็จแล้วก็รอดูตะวันขึ้นที่เหนือยอดเขา พอตะวันขึ้นเสร็จแล้วก็บินกลับลงมาหาอยู่หากินกับลูกกับเมีย เขามีความสุขมาก 

ต่อมาวันหนึ่ง เนื่องจากตรากตรำภาระหนักเหลือเกิน ร่างกายทนไม่ไหวก็ป่วย เช้าตรู่วันนั้นไก่ตัวนั้นก็บินขึ้นไปเกาะกิ่งไม้ที่เดิม ขณะจะขันเพื่อเรียกตะวันขึ้นก็ร่วงตกลงมา รู้สึกไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ลูกชายซึ่งเป็นไก่โต้งคนรุ่นใหม่ไฟแรงเดินเข้ามาประคองพ่อ
 พ่อ ผมว่าถ้าพ่อขันไม่ไหว วันนี้ผมขันแทนเอาไหม” 
ไก่พ่อซึ่งเป็นซีอีโอ ก็ยืดอกขึ้นมาชี้หน้าลูก 
น้ำหน้าอย่างแก ถ้าขันตะวันมันจะขึ้นไหม หัดดูเงาหัวตัวเองซะบ้างสิ” 
เจอผู้ใหญ่ดับฝันแบบนี้ลูกหัวหดเลย 

เช้าตรู่วันนั้นทั้งๆ ที่ป่วย ไก่ซีอีโอตัวนี้ก็บินขึ้นไปเกาะบนกิ่งไม้ และก็ขันครั้งสุดท้าย ขันได้ครั้งเดียว ตกลงมาดิ้นพราดๆ ก่อนจะขาดใจตาย เรียกประชุมผู้ถือหุ้นด่วน ทั้งภรรยาและลูกมากันครบ สั่งเสียว่า 


เธอที่รัก ลูกพ่อ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปพี่คงไม่มีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว
 และจากนี้เป็นต้นไป พอพี่ไม่ขัน ตะวันก็จะไม่ขึ้น โลกก็จะเข้าสู่กลียุค ฉะนั้นขอให้เธอและลูกดูแลบริษัทของเราให้ดีๆ ถ้าไม่มีพี่แล้วจะอยู่กันด้วยความยากลำบาก มนุษยชาติก็จะถึงคราววิบัติ ดูแลกันดีๆ นะที่รัก” 

เสร็จแล้วก็ล่วงลับดับขันธ์ไป พร้อมกับความเข้าใจผิดว่า เพราะฉันขันตะวันจึงขึ้น หารู้ไม่ว่าวันรุ่งขึ้น พอไก่ตัวนี้ตายไปแล้ว ตะวันก็ยังขึ้นเหมือนเดิม 
โลกดำเนินต่อไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไก่ตัวนั้นไม่ได้นำเอาตะวันไปด้วยสักนิด 
พระอาทิตย์ยังคงอุทัย พระจันทร์ยังคงทอแสง สายน้ำยังคงไหลเอื่อย 
ดอกไม้ยังคงผลิบาน โลกนี้ยังคงมีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ 
นกก็ยังมีข้าวปลาอาหาร คนต่างๆ ก็ยังคงทำงานต่อไปได้เหมือนเดิม 

ฉะนั้น ผู้บริหารทุกคน เมื่อเราบริหารงานไปได้ระดับหนึ่งแล้ว 
อย่าหลงตัวเองว่าองค์กรนั้นถ้าขาดฉันแล้วไปต่อไม่ได้ 
ควรเตือนตัวเองเอาไว้บ่อยๆ ว่า ถ้าขาดฉันแล้วมันจะไปได้ดี 
เพื่อจะได้ไม่หลงตัวเอง 


ผู้บริหารจำนวนมาก ทันทีที่ประสบความสำเร็จก็ล้มเหลวในวันนั้น 

เพราะทันทีที่ประสบผลสำเร็จก็เริ่มหลงตัวเอง และนี่แหละคือจุดจบของผู้บริหาร
 ฉะนั้นจำนิทานเรื่องนี้ไว้ 
วันหนึ่งถ้าเราประสบความสำเร็จ ก็อย่าไปหลงตัวเองว่าเราต้องเป็นหนึ่งในตองอูเท่านั้น จนไม่ยอมบริหารจัดการอำนาจความรับผิดชอบให้กับผู้อื่นเลย

ผู้บริหารที่ดีจึงไม่ใช่ผู้ที่แบกหนักที่สุด
 ผู้บริหารที่ดีคือผู้ที่แบกหนักพอสมควร และกระจายภาระให้คนอื่นแบก 
และประการสำคัญที่สุด ผู้บริหารจะไม่ทำงานจนป่วยตาย
รวงข้าวที่ลีบและเบา มักชูตัวสูง แกว่งไปมา เพราะภายในกลวงไม่มีอะไร
รวงข้าวที่หนักสุกปลั่ง จะค้อมตัวต่ำนิ่งงดงาม เพราะภายในหนักด้วยคุณค่า และเนื้อหา
คนเรายิ่งก้าวขึ้นสูง ถ้าทำตัวให้ยิ่งอ่อนน้อมลงต่ำ ก็ประดุจรวงข้าว ที่ยิ่งหนักยิ่ง อร่ามงดงาม




ครีมมะขามขัดผิว

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาสอนการทำครีมมะขามสำหรับขัดผิวกันนะค่ะ ถึงแม้จะยังไม่เข้าหน้าร้อน แต่ให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้วิธีการทำเตรียมตัวไว้ก่อน เข้าหน้าร้อนปับ ก็จะได้เตรียมทำสูตรครีมมะขามสำหรับขัดตัว ขัดหน้าได้เลยค่ะ

เริ่มต้นกันที่อุปกรณ์และส่วนผสมกันก่อนนะค่ะ

อุปกรณ์ประกอบด้วย
1. หม้อสแตนเลส  1 ใบ
2. อ่างพลาสติกก้นเรียบ 2 ใบ
3. ตะแกรงสำหรับกรองมะขาม 1 อัน
4. ตาข่ายจับปลาสำหรับกรอง 1 อัน
5. ไม้พายสแตนเลส 1 อัน
6. ตะกรอตีผสม 1 อัน
7. ตะหลิวสำหรับตัก 1 อัน
8. ถ้วยตวงขนาด 1 ลิตร 1 อัน
จะขาดเหลืออะไร ก็หา ๆ หยิบเอาเองที่บ้านนะค่ะ

ส่วนผสม ที่ต้องเตรียม มีดังนี้
1. มะขามเปียก (เอาใหม่ ๆ สด ๆ จะได้ไม่แข็ง)
2. ทานาคาผง
3. เหงือกปลาหมอ
4. ว่านนางคำ
5. ขมิ้นชัน
6. ไพลผง
7. ขมิ้นอ้อย
8. งาดำบดละเอีดย
9. น้ำมันมะพร้าว
10. น้ำผึ้ง
11. สารกันบูด
12. น้ำสะอาด

เมื่อเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว ก็มาเริ่มต้นทำกันได้เลยค่ะ



วิธีทำ
1. ตวงน้ำสะอาดตามส่วน ใส่ในอ่างพลาสติกที่เตรียมไว้ เติมมะขามเปียกลงไป แล้วใช้มือขย้ำให้เละ (อย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนนะค่ะ)
ภาชนะ และน้ำสะอาด ด้วยนะจ๊ะ
อันนี้อย่าลืมล้างมือก่อน ลงไปขย้ำขยี้ ซึ่งต้องขย้ำขยี้ด้วยความปราถนาดี อย่างให้คนใช้สวยด้วยนะจ๊ะ


2. ระหว่างทำขั้นตอนที่ 1 อยู่ หากว่าเราไม่ได้ซื้องาแบบบดมา ให้เราเอางาไปล้างน้ำ แล้วนำไปคั่วให้หอมก่อนนำไปบดอีกครั้ง
การคั่วงา ต้องให้งาแตก ดังเปาะแปะ

3. เมื่อเราขย้ำขยี้มะขามเปียกจนเละแล้ว ให้กรองผ่านตะแกรง 1 ครั้ง เอากากทิ้งไป
กรองผ่านตะแกรงครั้งที่ 1

4. นำเนื้อมะขามที่ได้มากรองผ่านกระชอนปลาแบบถี่หน่อยอีกครั้ง เพื่อให้ได้เนื้อครีมมะขามที่เนียนละเอียด
กรองครั้งที่สอง ผ่านกระชอน หรือตาข่ายแบบถี่ เพื่อให้เนื้อเนียน

5. ใส่เนื้อมะขามที่ได้ลงในหม้อสแตนเลส แล้วเติมสมุนไพรทุกตัวตั้งแต่ข้อ 2 ถึง 10 แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน ๆ
เติมสมุนไพร และน้ำมันลงไป

6. กวนด้วยไม้ตีไข่ไปเรื่อย ๆ จนครีมแตกมัน เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนน้ำงวด หรือเนื้อข้น ยกลงจากเตา นำมาหล่อน้ำให้เย็น
ตีไปเรื่อย ๆ ให้ขึ้นเงา ออกน้ำมัน
คนไปเรื่อย ๆ จนเนื้อข้น 

7. แล้วเติมสารกันบูดลงไป คนให้เข้ากัน พร้อมบรรจุถุงเก็บไว้ในตู้เย็น พร้อมใช้จ้า

วิธีใช้
ใช้ขัดผิว ขัดหน้า ให้ทั่ว 10 - 15 นาที แล้วล้างออก ผิวก็จะเนียนสวยใส เหมือนดัง presenter ของเราจ้า (ดูภาพจ้า)
พรีเซ็นเตอร์ ขัดผิวด้วยครีมมะขาม เมื่อทำเสร็จทันที

หลังขัดด้วยครีมมะขาม ไม่น่าเชื่อ โอ...จอร์ส มันยอดมาก.... ผิวซ่าร่า...เนียนใส เชียว ไม่เชื่อไปสัมผัสได้ที่ร้านทำผมของคุณพอเพียง.....


สนใจติดต่อสั่งซื้อได้ที่ คุณตู๋ tusora@gmail.com

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

Conditioner Home Make การทำครีมนวดผมใช้เองที่บ้าน

ครีมนวดผม หรือ คอนดิชั่นเนอร์ ใช้หลังจากสระผมทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะเรียบร้อยแล้วเพื่อช่วยในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ให้เส้นผมนิ่ม เป็นเงางาม ไม่แห้งกรอบ หรือแตกปลาย

สูตรการทำครีมนวดผมของอาจารย์บี ก็ทำได้ง่าย ๆ ใช้อุปกรณ์ไม่กี่อย่าง ดังนี้
สามารถหาซื้อส่วนผสมของครีมนวดผมสูตรนี้ได้ที่ร้านวันรัตน์ จ้า....

ส่วนผสม 
1. Wax-AB  ช่วยสร้างให้เกิดเนื้อครีม
2. Wax-AC   ช่วยให้ผมลื่น ไม่พันกัน
3. น้ำสะอาด หรือ น้ำสกัดสมุนไพร
4. สารกันบูด (ไม่ใส่ก็ได้ กรณี ไม่ได้ใส่ของสด)
5. น้ำหอม กลิ่นตามชอบ
6. สีผสมอาหาร สีตามชอบใจ ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้

วิธีทำ ก็แสนจะง่ายดาย เริ่มต้น ดังนี้
1. นำ ส่วนผสมข้อ 1 - 3 ใส่ในหม้อ แล้วนำไปตั้งไฟ ต้มให้ละลาย แล้วยกลงจากเตา

2. นำหม้อที่มีส่วนผสมในข้อแรกมาหล่อในน้ำ คนให้เข้ากัน จนกระทั่งเนื้อครีมขึ้นเงา และเริ่มอุ่น
3. ให้ใส่สารสกัด ที่เราต้องการลงไป และเติมสารในข้อ 4 -6 ลงไปตามลำดับ

4. ค้นไปเรื่อย ๆ จนเป็นเนื้อเดียวกันขึ้นเป็นเนื้อเนียนสวย ก็พร้อมบรรจุใส่ขวด เก็บไว้ใช้ได้นานเป็นปี

เป็นไงค่ะ ทำง่าย ๆ แค่นี้เอง คุณเองก็ทำได้ ไม่เชื่อมาเรียนด้วยกันที่ ศูนย์ฝึกอาชีพมีนบุรี ซิค่ะ
หรือติดต่อสั่งอาจารย์บีผลิตได้ที่เบอร์ 087-9345686

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ครีมกันแดด ทำไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย

แสงแดดเป็นศัตรูกับผิวสวย ๆ ของคุณผู้หญิง โดยเฉพาะผิวหน้า คุณผู้หญิงทุกคนคงไม่อยากให้หน้าเราต้องดำ คล้ำ เป็นฝ้า กันอย่างแน่นอน ดังนี้ ปัจจุบันผู้หญิงเราจึงนิยมใช้ครีมกั้นแดดกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะค่านิยมยิ่งต้องการ SPF สูง ๆ เพื่อปกป้องผิว แต่จริง ๆ แล้ว ทางแพทย์ผิวหนังแนะนำว่า ....

ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF เพียง 40 - 50% ก็เพียงพอในการปกป้องแสงแดดในแต่ละวัน (ยกเว้นกรณีที่คุณทำงานกลางแดดตลอดวัน กรณีให้ล้างหน้าระหว่างวันแล้วทาครีมซ้ำได้) เพราะค่า SPF ที่สูงเกินไป ก็ไม่มีผลต่อการปกป้องผิว และสารเคมีที่ตกค้างอาจทำปฏิกิริยากับแสงแดด ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหรือเซลล์ผิวหนังได้

จริง ๆ แล้วครีมกันแดดเราเองก็สามารถทำเองได้อย่างง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก และสามารถเลือกวัตถุดิบที่ปลอดภัย ไม่ทำให้เราก่อเกิดอาการระคายเคืองได้ โดยเริ่มต้นที่สูตรพื้นฐาน ดังนี้

ส่วนผสม
PART - A
1. สาร A 25     เป็นผงสีขาว ทำเป็นผสานน้ำกับน้ำมัน 
2. สาร SPAN-60 หรือจะใช้ Bee Wax  เป็นเม็ดกลม ๆ สีเหลืองอ่อน ๆ เป็นตัวทำให้ครีมข้น
3. WAX-S   เป็นเกล็ดใหญ่ ๆ สีขาว ทำให้ครีมข้น
4. ซิลิโคน 344 หรือ STV5   
5. สาร LEXOL-GT-8 (EHP)   
6. โพลีไซเรน (poly sylane)  
7. สารกั้น UV 40%     

PART -B
1. น้ำสะอาด   หรือ น้ำ DI water    
2. P.G    

PART-C
1. สารกันบูด (GermabenII)  
2. น้ำหอมกลิ่นตามชอบ  

วิธีทำ 

ขั้นตอนแรก ให้จดสูตร ไปที่ร้านฮงฮวด หรือ ร้านหนำเซียน แถวจักรวัติ แล้วสั่งซื้อสารเคมีตามสูตรให้ครบ 
ขั้นตอนที่สอง เตรียมอุปกรณ์สำหรับทำ ได้แก่
1. หม้อสำหรับตุ๋น PART - A
2. หม้อสำหรับต้ม และ ผสม PART - B

เมื่อเตรียมเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นทำดังนี้
1. เทส่วนผสมของ PART -A ทั้งหมดลงในหม้อสำหรับตุ๋น นำไปตั้งไฟตุ๋นให้สารทั้งหมดละลายเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
เทสารต่าง ๆ ใน PART-A ลงในหม้อตุ๋นให้ครบ

นำไปตั้งไฟ ตุ๋นให้สารละลายเข้ากัน

ตุ๋นจนกระทั่งสารละลายหมดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นเหมือนน้ำนมสีขาว

2. เตรียมส่วนของ PART-B โดยการตวงน้ำใส่ในหม้อ นำไปต้มให้เดือด เมื่อเดือดแล้วยกลง เติมสาร P.G ลงไป จะได้สารละลายสีขาวขุ่น
เลือกน้ำสะอาด หรือใช้น้ำแร่ หรือใช้น้ำ DI water ก็ได้

ตวงน้ำให้ได้ตามสูตร (ให้พอดีอย่างขาดอย่างเกิน) แล้วนำไปต้มให้เดือด

เมื่อน้ำเดือดแล้ว ยกลง เติม PG ลงไปจะได้น้ำเป็นสีขาวขุ่น

3. แล้วนำสารละลายใน PART-B เติมลงไปใน PART-A แล้วคนให้เข้ากัน โดยอาจหล่อน้ำไว้ เพื่อให้ครีมที่ได้เย็นตัวลง คนไปเรื่อย ๆ จนครีมข้น และ set ตัวเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
คนไปเรื่อย ๆ ช้า ๆ ไม่ต้องรีบร้อน
4. เมื่อครีมเริ่มเย็นตัว ให้เติม PART-C ตามลำดับ ซึ่งหากเราต้องการเพิ่มคุณค่าของครีมนี้ สามารถเติมสารสกัดลงไป เช่น ว่านหางจระเข้ วิตามินอี เป็นต้น

5. เพียงแค่นี้ เราก็จะได้ครีมกั้นแดด นำไปใช้ได้แล้ว 

วิธีใช้ ให้ใช้เพียงเล็กน้อย แต้มบนใบหน้า 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองแก้ม ปลายจมูก และคาง แล้วจึงเกลี่ยให้ทั่วไปหน้า แล้วจึงทาแป้งทับ

เป็นไงค่ะ ง่าย ๆ แค่นี้ คุณก็จะมีใบหน้าที่ขาว เนียน สวย เด้ง สู้แสงแดด ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป

สนใจอยากเรียนเพิ่มเติม ติดต่อ อาจารย์บี 087-934-5686 หรือไปลงเรียนได้ที่ ศูนย์ฝึกอาชีพมีนบุรี 


วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

การทำเกลือแช่เท้า

การทำเกลือสปาแช่เท้า มีหลักการง่าย ๆ และทำไม่ยุ่งยาก คุณเองก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน

เกลือสปาแช่เท้า มีประโยชน์อะไรบ้าง ตัวหลัก ๆ เลยก็คือ เกลือ คุณใช้ได้ทั้งเกลือแบบป่น และเกลือแบบเม็ด เกลือ มีคุณสมบัติช่วยในการฆ่าเชื้อ ช่วยในการสมานแผล ส่วนสรรพคุณอื่น ๆ ก็ขึ้นกับว่า คุณเติมสมุนไพร หรือสารสกัดอะไรลงไปเพิ่มเติม

สำหรับสรูปที่เราจะสอนกันนั้น คือ เกลือสปาแช่เท้า มีดังนี้

1. เกลือ
2. สารส้มสตุ
3. สมุนไพร (ตามต้องการ)
4. น้ำหอมสปา (กลิ่นตามชอบ)



วิธีทำ ก็ง่าย ๆ คือ ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วเก็บใส่ภาชนะปิดสนิท เก็บไว้ใช้
อุปกรณ์ง่าย ๆ หาได้ที่บ้าน


ผสมรวมกัน

ค้นให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

เลือกกลิ่นตามชอบ เน้นที่กลิ่นที่ช่วย ดับกลิ่นเหม็น ฆ่าเชื้อโรค

บรรจุในกระปุก ปิดสนิท

แค่นี้ก็ได้ เกลือแช่เท้าสปาแล้ว

หรือจะเก็บไว้ในถุงพลาสติก ก็ติดฉลากให้เรียบร้อยด้วย

วิธีการใช้ สำหรับแช่เท้า ใช้ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น แช่เท้านาน 10 - 15 นาที หรือจนกว่าน้ำจะเย็น

คุณสมบัติ ช่วยทำความสะอาดเท้า ขจัดกลิ่น ฆ่าเชื้อ

เพียงง่าย ๆ แค่นี้ คุณก็สามารถนำไปทำเป็นของขวัญให้กับคนที่คุณรักได้ หรือจะทำไว้มาแช่เท้าคุณพ่อคุณแม่ก็ดีนะค่ะ หรือสนใจสั่งซื้อได้ที่ คุณตู๋ tusora@gmail.com ค่ะ