แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกาะเต่า แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกาะเต่า แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

OPEN WATER DIVER EXPERIENCE AT TAO ISLAND

สวัสดีกันอีกครั้ง วันนี้ตู๋จะเล่าประสบการณ์ที่ไปเรียนดำน้ำแบบ SCUBA คอร์ส O.W.D. หรือ Open Water Diver ที่เกาะเต่าให้เพื่อน ๆ ฟังกันสักนิด เพื่อใครสนใจอยากไป หรือจะชวนไปดำน้ำ Fun Dive ก็ยินดีอยากได้เพื่อนใหม่เสมอนะค่ะ การเรียนดำน้ำที่เกาะเต่าคราวนี้ ได้ไปเรียนในหลักสูตร SSI ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ประหยัดราคาถูกกว่าหลักสูตร PADI แต่เนื้อหา การเรียน การสอน เหมือนกันหมดนะ (แอบลองดูแบบเรียน และลองทดลองหาข้อมูลมาแล้ว confirm จ้า หากใครยังสงสัยก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Dive Master ของแต่ละสถาบันได้จ้า) สำหรับคนติดแบรดน์ ก็ต้องเลือก PADI ส่วนคนไม่ยึดติด และต้องการประหยัดกระเป๋าก็เลือก SSI (จากที่คุยกับ Dive Master ของทั้งสองที่ แนะนำไว้ว่า สำหรับคอร์ส Open กับ Advance ให้เลือกของ SSI ส่วนหลักสูตรขั้นสูงต่อไป ก็ย้ายมาเรียนของ PADI ก็จะโอเคจ้า.... ปรับเปลี่ยน สลับกันได้)

การเรียนดำน้ำหลักสูตร OPEN WATER DIVER ซึ่งต่อไปเราขอเรียกว่า Open หรือ OWD นะ จะได้เขียนสั้น ๆ หน่อย (เป็นอันเข้าใจกันนะค่ะ) เป็นหลักสูตรเริ่มต้นของคนที่สนใจจะเรียนดำน้ำ อยากได้รับประสบการณ์ชีวิตโลกใต้น้ำ Underwater Life ซึ่งเป็นอีกโลกหนึ่งที่สวยงามมาก ๆ ครูหมี (Dive Instructor) หนุ่มหล่อ คมเข้ม ที่สอนเรานั้น บอกไว้ว่า โลกประกอบด้วยส่วนที่เป็นน้ำมากกว่าพื้นดิน โดยมีพื้นน้ำถึง 70% เป็นพื้นแผ่นดินเพียง 30% เท่านั้น และเชื่อไหมค่ะว่า พืชใต้น้ำก็สามารถผลิตอ๊อกซิเจนได้มากกว่าพืชบนบกถึง 10% ทีเดียว ดังนั้น การอนุรักษ์สิ่งมีชีวิต พืช และสัตว์ใต้น้ำจึงเป็นการอนุรักษ์ที่สำคัญมากที่เดียว ซึ่งหากจะบรรยายไปมากกว่านี้ จะออกนอกเรื่องไปถึงเรื่องการปลุกเลือดรักษ์สิ่งแวดล้อมกันเกินไป จึงขอหยุดไว้ตรงนี้ก่อน จะกลับไปเล่าถึง เรื่องราวเริ่มต้นการเดินทางมาเรียนดำน้ำที่เกาะเต่ากันก่อน ตั้งแต่การตัดสินใจจองเรียนดำน้ำที่เกาะเต่าเลยแหละ.........มะ...ย้อนเวลากลับไป เมื่อปีที่แล้วในงาน TDEX งานนิทรรศการที่นักผจญภัย นักเดินป่า นักดำน้ำต้องไป........
  ณ งาน TDEX ปี 2010 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต สองสาว สวย แบบเซอร์ ๆ มาเดินเที่ยวงานนี้เพื่อจะซื้ออุปกรณ์เดินป่า และหาที่เที่ยวใหม่ ๆ เดินไปดูกล้องถ่ายใต้น้ำ อยากดำน้ำ ไปเรียนดำน้ำกับเถอะ... อยู่ดี ๆ ก็ชวนกันไปหาแพ็กเกจเรียนดำน้ำดีกว่า ระหว่างเลือกว่าจะไปเรียนที่ไหน ก็คุยกันว่า ระหว่าง กรุงเทพ กับเกาะเต่า ไปเรียนที่ไหนดี ถกกันไปมาว่า เรียนที่กรุงเทพ เรียนในสระว่ายน้ำ ไม่ได้บรรยากาศเหมือนที่ เรียนในทะเลนะ แต่เรียนในทะเล ก็มีเวลาน้อย ถ้าทำไม่ได้ ไม่ผ่านแล้วทำยังไงดี แล้วมีคลื่นลม จะไหวไหมเนี่ย แล้วราคาแต่ละที่ต่างกันอย่างไร ก็สรุปให้เพื่อน ๆ ฟังแบบคราว ๆ ดังนี้


เรียนดำน้ำที่กรุงเทพ ราคาอยู่ในช่วง 7000 - 15000 บาท 1. เรียนตอนเย็น หรือวันเสาร อาทิตย์ ที่สระว่ายน้ำ 4 ครั้ง (หรือแล้วแต่หลักสูตร เลยไม่ชอบ เพราะขี้เกียจเดินทางไปเรียนบ่อย ๆ ไกลบ้าน แล้วต้องฝ่ารถติดกลับบ้านอีก) 2. ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่าไปทริปที่ทะเล ค่าเดินทาง และค่าที่พักเพิ่ม อีก เท่ากับเสียสองต่อ (เราไม่ชอบเพราะคิดไม่รอบคอบ) 3. ดีตรง สามารถมาเพิ่มเติมทักษะ หรือทวนทักษะได้ง่าย (จ่ายเพิ่มแต่ค่าเช่าอุปกรณ์)

เรียนดำน้ำ ที่เกาะเต่า ราคาอยู่ในช่วง 8000 - 20000 บาท 1. เรียนในทะเลจริง ได้บรรยากาศ คลื่นลม ความเค็ม ความตื่นเต้น การเมาเรือ ภาวะขาดน้ำ เป็นต้น เรียกว่าสถานะการณ์จริง ๆ ตลอดเวลาที่เรียน 2. เรียนเสร็จกินอาหารอร่อย นอนไม่ไกล ไม่ต้องเดินทาง รถติด เหนื่อยแล้วพัก บรรยากาศดี 3. เกาะเต่า เป็นที่ผลิตนักดำน้ำชั้นนำของโลก แสดงว่าต้องดีจริง จบจากที่นี้ต้องเท่มาก ๆ อ่ะ 4. ไม่ดีตรง เวลาเรียนจำกัด ต้องตั้งใจเรียน ทำจริง ไม่เล่น เพราะต้องเป็นให้ได้ในเวลาที่จำกัด และเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมาย

ต่เหตุผลหลักของเราจริง ๆ  คือ อยากไปเที่ยว เกาะเต่าอีกครั้งอ่ะนะ คนเรา แหะ ๆ สรุปก็เลยตกลงกันว่าจะไปเรียนดำน้ำที่เกาะเต่า คราวนี้ก็มาถึงคิวการเลือกโรงเรียนสอนดำน้ำที่เกาะเต่า โรงเรียนไหนดีหนอ โรงเรียนไหนน่าไป คิดหนักเลยล่ะ ที่นี่ ก็เลยเก็บใบปลิว โปรโมชั่น กลับบ้านไปนอนคิดอีกสักคืน และเปิดเวปไซด์เลือกดู location ที่พัก อีกที เพื่อความมั่นใจ ก็ยังสรุปไม่ได้อีก เลยต้องกลับไปที่งาน TDEX อีกครั้ง ได้ไปคุยกับสองสามแห่งที่สอนดำน้ำที่เกาะเต่า ก็คุยถูกใจกับครู และได้เห็นครูสอนดำน้ำตัวดำ ๆ ที่ชื่อ ครูหมี ก็จำได้แต่ตัวโต ๆ ดำ ๆ ไม่คิดว่า จะเป็นครูผู้ฝึกสอนเราดำน้ำในวันนี้ (อิอิ บุพเพ อาละวาด....) เมื่อคุยถูกใจ ถูกคอ กับครู ก็ต้องจองที่ดำน้ำที่นี้ ณ Sairee Cottage Diving นั้นเอง.... ตอนจองเรียนดำน้ำ ถามครูไว้ว่า ต้องเตรียมพร้อมร่างกายอย่างไร ครูบอกว่า ออกกำลังกายหน่อย จะได้มีแรงแบกถังอากาศ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง ฟิตร่างกายให้แข็งแรง ก็โอเค ระหว่างปีนั้น ทำให้พวกเราขยันไปฟิตเนส ออกกำลังกาย เพื่อเตรียมพร้อมเหมือนกัน และสักพัก ก็ขี้เกียจเหมือนเดิม  (ไม่เอาแหละ ออกนอกเรื่องไปอีกแล้ว กลับมาสู่ ณ ปัจจุบัน) เราย้อนเวลากลับไปให้รู้ว่า เราจองเรียนดำน้ำได้อย่างไรแล้วนะ ดังนั้น เรามาว่ากันต่อเรื่องของเราเกี่ยวกับการเรียนดำน้ำที่เกาะเต่ากันดีกว่า

  สำหรับการเรียนดำน้ำ OPEN WATER DIVER ของเราเรียนทั้งหมด 4 วัน ดังนี้


วันแรก ช่วงบ่าย เรียน ทฤษฎีเกี่ยวกับเป็นความรู้เบื้องต้นของการดำน้ำ บทที่ 1 -3 พวกเราอ่านหนังสือจากคู่มือภาษาไทยครั้งแรก กลุ่มแรก ที่มีคู่มือนี้ ทำให้ง่ายสำหรับการเรียนการสอน ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น งานนี้ อาจารย์หมี หรือครูหมี (น้ำ) (Dive Instructorของพวกเรา ให้พวกเราพักสบาย ๆ เอาหนังสือไปอ่านเองก็ได้ มีอะไรไม่เข้าใจก็มาถาม แล้วให้ทำแบบฝึกหัดบทที่ 1 -3 พวกเราทำกันบ่ายนั้น เหลือทำไม่ได้แค่ 2 ข้อเอง เก่งจริง ๆ คนอะไร อิอิ...ชมตัวเอง ข้อที่ทำไม่ได้ ก็คือ การดูตารางแบ่งกรุ๊ปดำน้ำ และการคำนวณค่าไนโตรเจนที่เหลือ หรือเวลาสูงสุดในการดำน้ำณที่ความลึกนั้น ๆ (ประมาณนั้นแหละ เป็นข้อที่สำคัญเชี่ยว)
 หนังสือคู่มือการเรียนดำน้ำขึ้นพื้นฐาน OPEN WATER DIVER เป็นหนังสือภาษาไทย ฉบับแรกที่มีการจัดพิมพ์ขึ้น ของสถาบันสอนดำน้ำ SSI และเราสองคน ก็เป็นนักเรียนสองคนแรก ของ Sairee Cottage Diver ที่ได้เรียนด้วยหนังสือเล่มนี้ (อยากได้มาครอบครอง แต่มิได้มีจำหน่าย หรือขาย อาจารย์หมี ให้ไปโหลดเองในเวปไซด์จอง SSI โห....ใจร้ายอ่ะ อาจารย์อ่ะ ....... วัยรุ่น เซ็ง.....)
พวกเราเริ่มเรียนกันด้วย การลงทะเบียนในเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ การทำแบบสอบถามสุขภาพ (เป็นกฏหมาย และข้อบังคับ ที่นักดำน้ำทุกคนต้องทำตลอดที่จะไปดำน้ำ ไม่ว่าทริปใดก็ตาม เขาจะให้กรอกแบบสอบถามสุขภาพเสมอ เพื่อความปลอดภัย..... ครูหมี เริ่มต้นอธิบายถึงรายละเอียดของการเรียนการสอน กำหนดการคราว ๆ ในแต่ละวัน ดังนี้ วันแรก เริ่มต้นภาคบ่าย เรียนทฤษฏี เบื้องต้นของการดำน้ำ ชื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการดำน้ำ เป็นต้น


วันที่สอง ภาคเช้า เรียนทฤษฏี และแนะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการดำน้ำ หัด set อุปกรณ์ ตื่นเต้นมากเลย ทำผิดทำถูกด้วย ภาคบ่าย ลงดำน้ำ 1 Dive เพื่อฝึก ทักษะต่าง ๆ เช่น การสื่อสารใต้น้ำ การเคลียร์หู การเคลียร์น้ำเข้าหน้ากาก การถอดเร็กกูเรเตอร์ใต้น้ำ การช่วยเพื่อน และอื่น ๆ วันที่สาม ภาคเช้า เรียนทฤษฏี และการคำนวนค่าต่าง ๆ เพื่อใช้ในการทำ Dive Profile ภาคบ่าย ลงดำน้ำ 2 Dive ที่ความลึก สูงสุด 12 m และเรียนการลอยตัวด้วยการใช้ปอด


วันที่สี่ เป็นการฝึก dive 2 Dive ที่ความลึกสูงสุด 18 m และจบการศึกษา โดย Dive แรก ลงไปลึกสุด และทำ Activity ต่าง ๆ เช่น ตีกังกาในน้ำ ถอด fin เป็นต้น Dive สองเป็นการชมธรรมชาติ ดูประการัง ดูปลา สำรวจใต้ทะเลในความลึกไม่เกิน 18 m สนุกมากเลย ไว้จะเล่าให้ฟังต่อไป และก็จบด้วยการลงข้อมูลใน Dive Log ของเราเอง และส่งมอบบัตรประจำตัวนักดำน้ำระดับ OWD อิอิ... รู้โปรแกรมกันคราว ๆ แล้ว ต่อไปจะเล่าถึงกิจกรรม และบรรยากาศในแต่ละวันให้ฟังกันนะค่ะ วันแรก หลังจากเดินทางเข้าสู่ที่พัก รายงานตัว check in อาบน้ำ กินข้าว ก็ลงทะเบียน ข้อมูลส่วนตัว และตอบคำถามสุขภาพสำหรับนักดำน้ำ อาจารย์อธิบายรายละเอียดของคอร์ส และให้หนังสือคู่มือไปอ่าน เราเอาหนังสือไปอ่าน และกินเค็กช็อกโกแล็ต ที่ร้าน Blue Wind Resort เป็นขนมโฮมเมดแบบฝรั่ง รสชาดก็แบบฝรั่ง บรรยากาศของร้านติดทะเล นั่งสบาย ๆ แบบขันโตกทางเหนือบ้านเรา สำหรับการเรียน การสอนวันแรก ไม่มีอะไร เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการอ่าน และทำแบบฝึกหัด จะเห็นได้จากภาพว่า สองเรา ชิว ๆ สบาย ๆ กันแค่ไหน .................


วันสุดท้าย วันที่สี่ วันนี้แต่เดิมมีกำหนดดำน้ำ 2 Dive รอบเช้า แต่เปลี่ยนมาเป็นรอบบ่ายแทน (มีเหตุผล แต่ไม่เล่าอ่ะ) วันนี้มีเวลาเหลือเฟือ เลยตื่นสายวันหนึ่ง กว่าจะลุกจากที่นอนก็ 7.00 น. ตื่นมาออกไปเดินเล่น ที่ชายหาด โดยวันนี้มุ่งไปที่ต้นหาดทรายรี พบว่า มีอนุสาวรีย์เสด็จเตี่ย ร.5 อยู่ และมีร้านค้าน่าสนใจอีกมากมาย แวะถ่ายรูปมาให้ชมกันด้วย.... ไปชมกันนะค่ะ
หากคุณไปเที่ยว คุณรู้ไหมว่า ช่วงเวลายามเช้า มีอะไรให้คุณได้พบเห็นมากกว่าที่คิด ได้เห็นธรรมชาติ และความงามที่สดชื่น มาค้นหามากมาย..... (คราวหน้าไปเที่ยวที่ไหน ก็อย่าลืมตื่นเช้าหน่อยนะค่ะ)
หลังจากนั้น ก็กลับมาที่บ้านพัก บัดดี้เราตื่นแล้ว ไม่ต้องปลุก ....เย้..... หลังจากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัว ไปกินข้าวเช้ากัน หิวแล้วอ่ะ.... อาหารเช้าที่เดิม Wind Resort เมนูเดิมด้วย ไม่เล่าและ หลังจากนั้นก็เดินเล่น ถ่ายรูป และกลับมาอาบน้ำเตรียมตัว ไปดำน้ำ 2 Dive สุดท้าย ก่อนเรียนจบ ที่ความลึก 18 m จ้า....
11.00 น. อาจารย์หมี ให้ไปกินข้าวให้เรียบร้อย ก็กินข้าวผัดเหมือนเดิม 2 คน 1 จาน จะได้ไม่อิ่มเกินไป แล้วก็ไปเอากระเป๋าอุปกรณ์ ตรวจสอบอุปกรณ์ wet suit, fin, BC ครบ ออกเดินทางไปขึ้นเรือได้เลย......
หลังจากขึ้นเรือ ครูหมี ก็มีของเล่นมาให้ Surprise กัน คือ นาฬิกาเข็มทิศ ครูหมีบอกว่า วันนี้จะเรียนการใช้เข็มทิศ และให้เราทำทักษะเกี่ยวกับเข็มทิศ และมีการทำกิจกรรมสนุก ๆ เช่น ตีลังกา ถอดฟินใต้น้ำ เป็นต้น    ส่วน Dive สุดท้าย จะพาเราไปดำน้ำเล่น ดูชีวิตใต้ทะเล ดูปลาการ์ตูน ปลาวัว และอื่น ๆ วันนี้ต้องสนุกแน่ ๆ อาจารย์บอก สบาย ๆ สนุก ๆ วันนี้ ทำเอาเราสองคนดีใจ ตื่นเต้น เพราะวันนี้จะลงดำน้ำที่ความลึกสูงสุดคือ 18 m เย้.... ตื่นเต้น วันนี้เราเอาวีดีโอมาถ่ายด้วย ยังไง รอดูนะ บัดดี้กำลังตัดต่ออยู่ รอนานหน่อย เพราะของดี ต้องรอนาน ๆ ให้มีค่าหน่อย 555555..........
มาชมบรรยากาศวันสุดท้าย ก่อนลงดำน้ำกัน
เริ่มต้น Dive แรกวันสุดท้ายด้วยการดำที่ Japanese Garden 10 m นาน 42 นาที โดยการลงน้ำแบบก้าวลงเหมือนเดิม (มีถ่าย VDO ไว้ด้วย รอดูนะ) แล้วลงใต้น้ำด้วยการลงใกล้เชือก แต่วันนี้ห้ามจับเชือก และค่อย ๆ ลง โดยการเคลียร์หูไปด้วย วันนี้เราเคลียร์หูผ่าน ไม่ติดขัด สบายมาก ๆ จนลงมาถึงระดับหนึ่ง ครูหมีส่งสัญญาณให้ว่ายตามไป ที่พื้นทราย แล้วให้สัญญาณนั่งลงคุกเข่าเหมือนเดิม โดยเริ่มต้นกันที่ การเคลียร์หน้ากาก โอเคผ่าน และตามมาด้วยการนั่งขัดตะมานลอยตัวโดยการใช้ปอด ผ่านทั้งคู่ หลังจากนั้นก็ให้ทำทักษะการใช้เข็มทิศ โดยให้ว่ายไปที่ทิศเหนือก่อน แล้วกลับมาทางทิศใต้ โดยให้ไปกันสองคนกับบัดดี้ ครูรออยู่ที่เดิม ระหว่างว่ายไปบัดดี้ก็ว่ายมาชนเราด้วยแหละ พอระยะทางครบตามที่ตกลงกันไว้ก็กลับไปทางทิศใต้ ตอนแรกดูน่ากลัวนิด ๆ พอไม่มีครู ทะเลมันดูไม่มีทิศทาง ไม่รู้เหนือรู้ใต้เลย แต่พอว่ายกลับไปทางทิศใต้ และเริ่มเห็นครูหมี ก็เริ่มใจชื้นขึ้น ระหว่างนั้น ก็มองบัดดี้ไปด้วย กลัวต้องใช้กฏ 1 นาที ถ้าหลงจากบัดดี้ เมื่อว่ายกลับมาถึงครูหมีแล้ว ครูหมีก็ให้ลองถอด Fin ลองกระโดดตีลังกา ลองกระโดดลอยตัว ลองว่ายแบบไม่มี fin ซึ่งก็ทำได้ดีทุกคน และสนุกกันด้วย มันส์มากเลยแหละ หลังจากนั้น ก็ให้ว่ายตามไปยังจุดที่ลึกที่สุดคือ 18 m โดยอาจารย์ให้เราดูเกจ และจับมือแสดงความยินดีที่ผ่านระดับความลึกนี้ อาจารย์ทำเหมือนกันกับบัดดี้เรา จากนั้น ก็ให้สัญญาณขึ้นจากน้ำ และสัญญาณทำ Safety Stop 5 m 3 min เหมือนเดิม ซึ่งก็ทำได้ดีระดับหนึ่ง แล้วจึงขึ้นสู่ผิวน้ำ  และว่ายกลับไปที่เรือ ดื่มน้ำ กินแตงโม เยอะๆ และเตรียมถังอากาศใหม่ เพื่อทำ Dive 2


Dive 2 วันนี้ พวกเราไปดำกันที่ Twin Rock การดำ Dive นี้ เป็น Fun Dive พาไปดูปลา ลอดถ้ำ ดูปะการัง ปลาวัว ปลากุ้ง และอื่น ๆ พวกเราตื่นเต้นมาก และ Dive นี้ มีเพื่อนร่วม Dive มาอีกท่าน เป็นชาวต่างชาติที่มาเรียนคอรส์ Dive Master จะร่วมไดฟ์ไปกับเราด้วย ซึ่งเป็นว่ายอยู่ด้านหลังปิดท้ายขบวน เราเห็นท่าดำ และการลอยตัวของเขาแล้ว นิ่งมาก ๆ ไม่ต้องใช้มือช่วยเหมือนครูหมีเลย พวกเรายังมีแอบใช้มือช่วยพยุงตัวกันอยู่เลย แหะ ๆ

Dive สุดท้าย ตอนลงจากเรือ พวกเราทั้งคู่ ใช้ท่ายืนเอาหลังลง ซึ่งพบว่าลงง่ายกว่ากันเยอะ สบายด้วย ชอบ ๆ คราวต่อไปจะใช้ท่านี่แหละ อิอิ...จอง ไว้แล้ว..... หลังจากลงมากันจนครบทุกคน ครูหมีก็ให้สัญญาณดำลงน้ำ โดยค่อย ๆ ลง ช้า ๆ และเคลียร์หูไปด้วย รอบนี้ก็โอเคเคลียร์ด้วยดี แต่น้ำเข้าแว่นตาดำน้ำ ต้องเคลียร์แว่นตาด้วย แต่ก็โอเค ผ่านไปด้วยดี พอลงมาถึงระดับหนึ่ง ครูหมีให้สัญญาณให้ว่ายน้ำตามไป บริเวณที่พวกเราลง เป็นเหมือนมีภูเขาลูกเล็ก ๆ อยู่ใต้น้ำเต็มไปหมด ซึ่งจุดดำน้ำ Twin Rock นี้ ขึ้นชื่อเรื่องของจุดดำน้ำที่สวยงาม มีปะการัง และปลาเยอะมาก เป็นแหล่งของปลาวัว กุ้ง ปลาการ์ตูน ปลากระเบน ปลาเทวดา ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ ปลาปักเป้า เป็นต้น (อยากเจอะเต่า แต่ไม่ได้เจอะ เสียดายมาก ๆ เลย) ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เพราะเจอะเยอะแยะมาก โดยเฉพาะกุ้งตาบอดกับปลา ที่อยู่แบบพึ่งพากัน และปลานีโม่ที่น่ารัก ปลาวัวตัวใหญ่ ปลาปั๊กเป้าตัวกลม ปลากระเบนลายจุดฟ้า สนุก ตื่นเต้น เร้าใจมาก ๆ โดยเฉพาะตอนว่ายรอดถ้ำ ทีละคน ก็รอดปลอดภัยดี ไม่มีอันตราย เป็น Fun Dive ที่สนุกมาก ๆ เลยค่ะ จบ Dive นี้ ด้วยความสนุก มีความสุข ตื่นเต้น จนอยากดำ

Dive ต่อไปอีก.... หลังจากกลับจากการ Dive อาจารย์ก็ให้กรอก Dive Log สมุดประจำตัวของนักดำน้ำ และมอบบัตรนักดำน้ำประเภท OPEN WATER DIVER ให้ เป็นบัตรตลอดชีพ ........................และแนะนำคอร์ส Advance Open Water Diver ว่ามีอะไรบ้างให้ฟัง (อยากเรียนเร็ว ๆ จัง ..........ไปกันเมื่อไรดีหนอ บัดดี้ที่รัก............)
จบแล้วจ้า ...............พูดเล่าด้วยตัวอักษร ไม่เห็นภาพ ก็ต้องอาศัยจินตนาการนะจ๊ะ ไปแล้วจ้า ไว้พบกันใหม่นะจ๊ะ
บทความเกาะเต่า และเกาะพงัน ปี2010

Koh Tao My Trip Way

การเดินทางครั้งนี้ สู่เกาะเต่า สถานที่ยอดนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของการดำน้ำ จุดมุ่งหมายของเราคือ ไปเรียนดำน้ำในคอร์ส Open Water Diver ซึ่งจองไว้แล้วที่ Sairee Cottage Diving ตั้งแต่งาน TDEX 2010 ปีที่แล้ว และก็เจอะโรคเลื่อน ตามกระแสของค่าเงินบาทที่ไหลออกจากกระเป๋าทุกวัน ทุกวัน ตลอดจนกระแสการเมือง กระแสกีฬาสี ที่ทำให้เราไม่กล้าออกไปไหน อีกทั้งสภาพดินฟ้าอากาศ ที่ทำให้งงจนทุกวันนี้ ว่ามันเป็น ฤดูอะไรกันแน่นะ หรือนี้คือ ความหมายของคำว่า ฤดูที่แตกต่าง (5555 คิดไปได้) แม้ว่าที่ตกลงกันว่าจะไป ก็มีข่าวว่า...พายุเข้าเกาะเต่า ฝนตกอยู่ แต่เราจะไปอ่ะ เอาซิ เราสองคนจะไป ดังนั้น พายุต้องหลบแล้วจะ  แบบว่าสั่งได้อ่ะ....และแล้วโชคชะตา ก็นำพา พวกเราออกเดินทางกันอีกครั้งจนได้ พายุยังต้องสงบ และสยบ เราสอง ..... 55555

กำหนดการเดินทางคือเย็นวันที่ 23 มิ.ย. 54 ฝนตกก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพ แต่เราก็ไม่หวั่น ออกเดินทางไปสู่ ถนนข้าวสาร ออฟฟิคบริษัทลมพระยา เป็นการเดินทางแบบนั่งรถ ไปต่อเรือ .... เราไปถึงที่ถนนข้าวสาร ทุ่มกว่า ๆ หลังจาก check in จองที่นั่งแล้ว ก็ฝากกระเป๋า และเดินไปกินโจ๊กบางลำภู เจ้าดัง...เจ้าประจำ แล้วเดินดูของเล่น เพื่อรอรถเข้าท่า ...(ปกติ มันก็เข้าท่าประมาณ 2.30 ทุ่ม เลทไปบ้างก็ 3 ทุ่ม ทำใจนะ...)



[โจ๊กบางลำภู....เจ้านี้ ขอแนะนำ.....อร่อยมากจ้าาาาาาาาา  ราคาเหมาะสม สมความอร่อย เนื้อข้าวละเอียด หมูหมัก ไข่ลวกพอดี ตับนิ่ม อร่อยมาก ๆ จ้า มีให้เลือกทั้งไข่ลวก ไข่เยี่ยวม้า .... งานนี้ ใครยังไม่ได้กินข้าวเย็น ก็มาทานก่อนเดินทางได้เลย

หลังจากทานเสร็จ ก็เดินเล่น ช็อปปิ้ง ดูของก็ได้ สนุกดี ผัดไทย ข้าวไข่เจียว ก็มีขาย...ใครชอบอะไร ก็เลือกได้ตามสบายจ้า]


การเดินทางเริ่มต้น 3 ทุ่ม แวะพักให้หาข้าวกินตอนตี 1 (ปลุกทำไหมเนี่ย....คนจะนอน แต่ก็ลงไปเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำสะอาดดี แต่อาหารไม่ได้กิน เลยไม่รู้อ่ะนะ ใครจะไปก็ไปกินกันเอาเองแล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะ กินข้าว ตี 1 อร่อยไหม...) ถึงที่ท่าเรือ ดอนสัก จังหวัดชุมพร ประมาณ ตี 5.30 ก็ไปนั่ง ๆ นอน ๆ รอที่ท่าเรือ มีเก้าอี้นอนให้นั่ง ลมพัดสบาย ๆ ห้องน้ำสะอาดพอใช้ ที่ชายหาด ก็สะอาดดี ไปวิ่งเล่น นั่งเล่น เดินเล่นแบบ พวกเราก็ได้ เดินไปได้สุดหาด มีที่ถ่ายรูปสวย ๆ มาอวดกันได้เลย... ยังไง ก็ดูเล่นไปก่อนนะ

บรรยากาศริมหาด ที่นั่งรอ เดินออกมาอีกนิด ก็มีความสุขดี มีชาวต่างชาติ ออกวิ่งเพื่อสุขภาพยามเช้า พอ 6 โมง เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกให้ไป check in ตั๋วเรือ ได้รับสติกเกอร์มาติดหน้าอกเพื่อบอกว่าเราไปที่เกาะไหน เช่น เกาะนางยวน เกาะเต่า เกาะพงัน เป็นต้น และจะได้แถบสีต่าง ๆ กันมาติดที่กระเป๋าเดินทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ ยกลงจากเรือได้ถูกเกาะด้วย ไม่หลงไปเกาะอื่น ดังนั้น อย่าลืมติดกันนะจ๊ะ.....






นั่งรอที่ริมหาด ด้วยเก้าอี้นอน เดินเล่นที่ชายหาด ออกไปถ่ายรูป รอเวลาเดินทาง เรือออก 7.00 น. ประมาณ 6.45 น. เจ้าหน้าที่ก็ประกาศเรียกให้ขึ้นเรือเร็วของลมพระยา ที่นั่งก็ติดแอร์ สบาย ๆ หรืออยากจะนั่งแบบ VIP ก็เพิ่มเงินอีกนิด 100 -200 บาท คุณจะได้ห้องส่วนตัว VIP เลยแหละ ใครชอบแบบไหน ก็ตามจริตนั้นนะจ๊ะ.....

เรือออกเดินทางจากท่าเรือทุ่งมะขามน้อย จังหวัดชุมพร ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงที่เกาะนางยวน ก่อน คนที่จะพักที่เกาะนางยวน ก็ลงไป ส่วนคนที่เหลือ ก็รีบถ่ายรูปกันนะจ๊ะ เกาะนางยวนสวยมาก ใครอยากมาก ก็ไว้มา One Day Trip ได้ มาขึ้นจุดชมวิว ถ่ายรูป และดำน้ำ snoker ได้จ้า..... ถ้าไปเรือแท็กซี Taxi Boat ก็ประมาณ 300 บาท ไปเที่ยวชมเฉย ๆ ถ้าจะไป One Day Tour ก็ 990 บาท โดยประมาณนะจ๊ะ (รวมค่าเข้า รวมอุปกรณ์ดำน้ำจ้า)


(ทริปนี้ ไม่ได้ไปเกาะนางยวน ได้แต่ดำที่ Japanese Garden ข้าง ๆ เกาะ ไม่ได้ขึ้นเกาะ ไว้ไปดูภาพบรรยากาศในทริปที่แล้วนะจ๊ะ ทริปเก่า เกาะเต่า เกาะนางยวน)
ภาพนี้ เอาลงให้ดู เพราะชอบบรรยากาศ ของชาวต่างชาติ ที่มาเที่ยวกันเป็นกลุ่ม so cool มาก ชอบ.....(ส่วนตัว เลยอยากโชว์)
หลังจากเรือออกจากท่าเกาะนางยวน ก็วิ่งมาอีกไม่เกิน 45 นาที ก็ถึงเกาะเต่า (น่าจะประมาณ 30 นาที พอดีจำไม่ได้แน่นอนอ่ะ มัวแต่ถ่ายรูปอยู่....แหะ ๆ )

เมื่อเรือ เข้าเทียบท่าบ้านแม่หาด ณ เกาะเต่า ก็ต้องโทรไปที่รีสอร์ท เพื่อให้รถมารับเราเข้าที่พัก ระหว่างทางก็จะมีแท็กซี่ มาเรียกตลอด ราคาแท็กซี่ที่เกาะเต่า เริ่มต้นที่ 150 บาทต่อคน (แพงในระดับหนึ่งนะจ๊ะ ไปเที่ยวแล้วต้องทำใจจ้า.... สำหรับคนไทย ไม่อยากแนะนำให้ขับรถเช่า เช่น มอเตอร์ไซด์ เพราะมันค่อนข้างอันตรายจ้า ทั้งชาวต่างชาติ ที่ขับซิ่ง ขับตามใจฉัน และเส้นทางที่คดเคี้ยว สูงชัน บาง อันตรายจริง ๆ จ้า...) 
จุดนัดพบ รอรถมารับ ก็คือหน้า เซเว่น มาทีไร ก็นัดหน้าเซเว่น ตลอด อ๋อ.... อีกจุดหนึ่งที่แนะนำ ถ้ารถยังไม่มารับ ให้เดินไปทางซ้ายมือของท่าเรือ ไปถ่ายรูปกับเต่าสัญญาลักษณ์ของเกาะเต่ากันหน่อยก็ดีนะ น่ารักดี เป็นไฮไลต์ดีด้วยจ้า......

ทริปนี้ สองสาวสวย....(เหลือน้อย...) บอบบาง อ้อนแอ้น อ่อนแอ... (เขียนไปก็จะอ้วกไปด้วย ทำไปได้อ่ะนะ คนเรา) มาถึงเกาะเต่าแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปกับเต่า แน่นอน และไปรอที่หน้าเซเว่น และกิจกรรมอีกอย่างคือกิน ไก่ทอด เจ้าเดิม แม่ค้าคนเดิม เหมือนปีที่แล้วเลย รสชาด ไม่มีคอมเมนต์ แต่กินได้ ร้อน ๆ ประทั่งชีวิตน้อย ๆ ของสองเรา.... (น่าสงสารไหม... ทั้ง ๆ ในเรือ ก็นั่งกินขนมมาตลอดทาง 5555)
ร้านเนี่ยแหละ ไปเกาะเต่า ท่าเรือ หน้าเซเว่น ไปวันไหนก็เจอะจ้า.....
เมื่อรถมารับไปที่ Rairee Cottage Diving ก็ประมาณ 10 - 15 นาที ไม่ไกลจากท่าเรือเลย ท่ารีสอร์ทก็มีป้ายต้อนรับ มีชื่อด้วย เท่...ดี เลยถ่ายมาให้ดูด้วยแหละ.... ดูอบอุ่นดี

เข้า check in จ่ายเงินเลย หรือจะจ่ายวันสุดท้ายก็ได้ (แต่อย่าจ่ายบัตรเครดิตนะ ชาร์ต 5 เปอร์เซ็นต์อ่ะ แพงมาก ๆ ) และต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนให้เป็นหลักฐานแลกกับกุญแจห้องไว้ด้วย อย่าทำหายละ....มีชาร์ตนะ จะบอกให้....

เมื่อ check in เรียบร้อย ก็มานั่งชิว ๆ หาข้าวกิน ที่ร้านอาหาร มื้อแรก ก็ Enjoy Eatting กันเลยแหละ อาหารอร่อยใช่ได้เลย วันแรกเริ่มต้น ด้วยสลัดทูน่า ข้าวผัดกุ้ง อร่อยที่สุด ลองมาดูหน้าตากันซิ ว่าน่ากินไหม

อาหารจานใหญ่ ประมาณสำหรับ ชาวต่างชาติ ราคาก็หลักร้อยนะจ๊ะ ไปเที่ยวแล้ว Enjoy Eating อย่างคิดมากนะค่ะ.... พวกเราสรุปแล้ว ส่วนมาก กินกันสองคน ตกมื้อละ 350 บาทสองท่าน โดยประมาณ ยกเว้นมื้อเย็น กินบาบีคิว กินสเต็ก อร่อย ๆ ก็ราคาอร่อย ๆ ไปด้วยจ้า........... ขอบอกว่า บาบีคิว ที่ร้านอาหารที่ทรายรี อร่อยมาก อร่อยจริง ๆ รับประกัน กินมาแล้วอ่ะ ไว้จะเล่าให้ฟังต่อไปนะจ๊ะ

หลังจาก ท้องอิ่ม หนังตาก็หย่อน เริ่มง่วง ก็นั่งเล่น ชิว ๆ ริมหาด ที่ร้านอาหารเดิม รอไปเข้าคอร์สเรียน OPEN WATER DIVER สำหรับหัดดำน้ำแบบ SCUBA ซึ่งจะเล่าให้ฟังต่อไปนะจ๊ะ .... (อดทนรอไปก่อน ของดี ต้องใจเย็น ๆ ขอบอกสนุกมาก ๆ )

สำหรับวันแรก... กิจกรรมก็คือ กิน เล่น เที่ยว ถ่ายรูป อ่านหนังสือ เตรียมพร้อมเรียน พรุ่งนี้กับคอร์ส OPEN WATER DIVER
หลังจากกินอิ่ม ของหนัก ก็เดินไปกินขนมต่อที่ร้าน Blue Wind เป็น Home Made Bakery สั่งเค็กช็อกโกแล็กมากิน เนื้อแน่นมาก รสหนักไปหน่อย เลยกินไม่หมด แต่รสชาดก็โอเคจ้า.. ลองไปกินดูแล้วกัน
จากนั้นก็เคร่งเครียดกันนิด อ่านหนังสือเตรียมพร้อมเรียน และทำแบบฝึกหัดที่ครูสั่ง แล้วออกเดินไปวัด ไปไหว้พระ ไปถึงวัดแล้ว ก็ไหว้แล้ว เป็นวัดเล็ก ๆ เดินไม่ไกลจากที่พัก ไม่กล้าถ่ายรูปมา เพราะเขากำลังมีงานศพ เลยเรียกแท็กซี่ ต่อไป โฉลกบ้านเก่า หาดตาโต๊ะ เขาคิดพวกเราคนละ 150 บาท สองคนรวมเป็น 300 บาท แต่ด้วยความน่ารัก และขี้อ้อน เลยลดเหลือคนละ 100 บาท แต่ไม่รับกลับนะ ส่งอย่างเดียว...

นั่งรถมาถึงที่หาดตาโต๊ะ มีรีสอร์ทสวยแห่งหนึ่ง ก็เลย แวะถ่ายรูปนิดอ่ะนะ โชว์หน่อยดีกว่า... ให้เห็นแล้ว น้ำลายไหล อยากไป...

หาดตาโต๊ะ เป็นหาดทรายขาวเนียน มีเส้นทางเดินไปสู่หาดเป็นแผ่นซีเมน ผาดไว้ตามก้อนหิน ทำเหมือนสะพาน มีรีสอร์ทที่พัก ซ่อนตัวอยู่หลายหลัง บรรยากาศเงียบสงบ สบายมาก ๆ

 ถ้าคนที่ชอบความสันโดษ ความสงบ แนะนำที่หาดนี้ เหมาะสำหรับหลบไปพักผ่อนแบบชิว ๆ มาก ๆ เลย และคนที่ชื่นชอบนก ก็มีนกน้ำให้ดูด้วย ยังแอบถ่ายมาได้เลย โชว์สักนิดแล้วกัน อิอิ....


นกสองตัวนี้ พบเห็นได้ในระหว่างทางเดินไปยังหาด น่ารักมาก ๆ เลยจ้า..... ใครรู้ว่าเป็นนกอะไร 
ช่วยคอมเมนต์มาบอกหน่อยนะค่ะ...

หลังจากพักผ่อน ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ก็เริ่ม หาของกินกันอีกแล้ว เราจึงเดินกลับมา เรื่อย ๆ จนถึง รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลมาก มีร้านอาหาร น่านั่ง ชื่อ New Heaven เราเรียกว่า สรวงสวรรค์ แล้วกัน ชื่อไทย ไม่อยากแปลตรงตัวมากนัก สั่งเครื่องดื่มมานั่งกิน ชมบรรยากาศ และทานอาหารเย็นกันต่อ

เครื่องดื่มอร่อยมาก อาหารก็อร่อย งานนี้ ไม่ขอบรรยายอีกต่อไป เพราะง่วงแล้วแหละ ดูภาพ แล้วแต่งเติมจินตนาการคุณกันเองแล้วกัน หมดวันแรกแล้ว เหนื่อยแล้ว คนเขียนขี้เกียจแล้วอ่ะ ไปดูภาพกันเลยดีกว่า.....


ขออภัย...ที่มิอาจ บรรยายได้มากไปกว่านี้ เพราะคนเขียนง่วงแล้ว......

พบกันกับบทความ Open Water Dive นะจ๊ะ บ๊าย...จ้า........

บทความเกาะเต่า และเกาะพงัน ปี2010


วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เกาะเต่า ตอนมอเตอร์ไซด์ทำหล่น

เกาะเต่า เป็นแหล่งผลิตนักดำน้ำของประเทศไทย อันเนื่องจากภูมิศาสตร์ของเกาะมีจุดดำน้ำมากมาย การเดินทางสะดวกสบาย ใช้เวลาไม่นาน จึงทำให้ เกาะเต่า เป็นที่รู้จัก และนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

หากใครสนใจต้องการเดินทางไป เกาะเต่า หรือ อยากลองอ่านประสบการณ์การเดินทางไป เกาะเต่า ก็อ่านได้ที่นี้เลย เกาะเต่า

การเดินทางมา เกาะเต่า เราได้นำเสนอไปแล้วในบทความก่อนนี้ แต่ของทวนกันอีกที คือ การนั่งรถ ลมพระยา ไปชุมพร ต่อเรือไป เกาะเต่า โดยสามารถซื้อตั๋วรถต่อเรือ ได้ในราคาปกติ 650 บาท (นอกนั้นไม่ปกติ แล้วแต่คุณโชคดีหรือร้ายค่ะ)

สำหรับที่พักบน เกาะเต่า เราแนะนำ Wind Bead resort ที่พัก ก็ราคาตั้งแต่ 600 - 2500 บาท ลองหาข้อมูลดูในอินเตอร์เนตนะค่ะ ส่วนการเดินทางใน เกาะเต่า จะมีรถแดงหรือแท็กซี่แดง (รถสองแถวเล็ก) คิดค่าเดินทางเริ่มต้นที่ 200 บาท (คนไทย) แล้วก็ตามระยะทาง ส่วนรถเช่า ก็จะมีทั้งรถมอเตอร์ไซด์ รถกอฟล์ รถ ATV ให้เช่า แต่ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะ รถมอเตอร์ไซด์เช่า ของ เกาะเต่า ดังนี้

เกาะเต่า เป็นแหล่งชุมชนของนักท่องเที่ยว ที่พูดภาษาอังกฤษ ภาษาต่างประเทศ คุณจะหาคนพูด ภาษาไทย ได้น้อยมาก ดังนั้น การเดินทางมาท่องเที่ยว เกาะเต่า คุณควรพอสามารถสื่อสาร ภาษาอังกฤษได้บ้าง หรือ ทางที่ดี คุณพูด ภาษาอังกฤษ แปลงตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปเลย คุณจะได้รับการยอมรับ และต้อนรับมากกว่า คนไทย ค่ะ เพราะพ่อค้า แม่ค้า ที่ให้บริการนักท่องเทียว ล้วนแล้วแต่พูดภาษาอังกฤษกันส่วนมาก แต่บ้างกลุ่มมิใช่คนไทย แต่เป็นชาวประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งพูดไทยได้น้อยมากค่ะ

ภาษาอังกฤษ จึงเป็นภาษากลางของ ชุมชนชาว เกาะเต่า ...... (นี่...มันประเทศไทยหรือเปล่าเนี่ย... ไปแล้วงง...)

การเช่ารถมอเตอร์ไซด์ สำหรับคนไทย นั้นค่อนข้างยากเย็นยิ่งนัก แต่ถ้าคุณมีเงินพอ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะ คนไทย ต้องประกันค่ารถ 5000 บาท ส่วนชาวต่างชาติ แค่ใช้พาสปอรต์ก็พอ ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ก็เริ่มต้นที่ 150 บาทต่อวัน ไม่แพง ส่วนถ้ารถเสียหาย หรือคุณทำรถพัง เขาจะชารต์คุณมากกว่าค่าซ่อม 3 เท่า แล้วถ้ารถพัง รถหาย เขาไม่คืนค่าประกันรถ คุณต้องเสีย 5000 บาทให้เขาไปเลย แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติ เขาจะชาร์ตเริ่มต้นที่ 3000 บาท ถ้าซ่อมก็ค่าชาร์ต 3 -5 เท่าเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ก็มิได้เป็นเหมือนกันทุกร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ หากคุณไปอยู่ที่พักที่เขามีรถให้เช่า ก็จะสะดวกหน่อย ไม่ต้องมีค่าประกันรถ คราวนี้เราจะมาแนะนำคุณในเรื่องของมอเตอร์ไซด์เช่า จะมี 2 ลักษณ์ คือ

  1. มอเตอร์ไซด์ธรรมดา (ล้อเล็ก)
  2. มอเตอร์ไซด์วิบาก (ล้อใหญ่)
ถนนใน เกาะเต่า มีลักษณะชัน ขรุขระมาก ในบางพื้นที่ (ส่วนใหญ่ ที่จะไปหาด หรือจุดชมวิว) ดังนั้น เราจะแนะนำให้คุณเลือก มอเตอร์ไซด์วิบาก ล้อใหญ่ ที่สามารถเกาะถนนได้ดีกว่า แต่คุณต้องพอขับมอเตอร์ไซด์ได้ดีในระดับหนึ่งเชียว

พวกเราขับมอเตอร์ไซด์ไม่คล่อง จึงเลือก มอเตอร์ไซด์ธรรมดา (แต่จริง ๆ ไม่มีเงินประกัน จึงต้องไปหาร้านที่ไม่ต้องใช้เงินประกัน ก็ได้มอเตอร์ไซด์เก่า ๆ แบบธรรมดามา 1 คัน เบรกไม่ดี ล้อยางรั่ว ต้องไปปะยางอีก แล้วก็ไปเติมน้ำมัน เติมไป 80 บาท แต่ขับไปจริง ๆ ไม่ถึง 40 บาทเลย เพราะถนนที่ขรุขระ และลาดชันมาก จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางไปต่อได้

หลายต่อ ๆ จุด ที่ชันมาก ขรุขระมาก คนซ้อนแบบเรา ต้องลงเดิน แบกกล้อง แบกขาตั้งกล้อง เดินขึ้น เดินลง เหนื่อยจะตาย ร้อนก็ร้อน... กรรม...

เท่านั้นไม่พอ ..... เหตุการณ์นั้นยังมาบังเกิดกับเราอีกด้วย.... ตอน มอเตอร์ไซด์ทำหล่น...
(แหะ กว่าจะเล่า เพื่อน ๆ คงบ่นกันว่า เกริ่นนำยาวมากกกกกกกกกกก)
เข้าเรื่องกันเสียที ตอน มอเตอรไซด์ทำหล่น 
ได้มอเตอร์ไซด์ แล้ว ถึงจะเก่าไปนิด แต่พอได้ ขับเที่ยวรอบเกาะกันดีกว่า มาแล้วภาระกิจ เที่ยวรอบเกาะคนขับ "โห... ทางชันจัง ขึ้นไม่ไหวแน่ ถ้ามีคนซ้อน .... "
คนซ้อน "อ้าว... ให้ลงไหม เอายัง..." ขณะยังลังเลใจอยู่ ก็เตรียมที่จะลุกลงด้วย 
คนขับ "อืม....." ยังไม่พูด ไม่ตัดสินใจ
คนซ้อน ก้าวขาซ้ายลง เหยียบพื้น ยกก้นขึ้น กำลังจะลงจากมอเตอร์ไซด์ ขณะนั้น ทันใดนั้น รถมอเตอร์ไซด์ก็ขยับถอยลงมา เสียงดัง "ตุ๊บ.... โอ๊ยดยยยย..."

คนซ้อน หล่นหงายหลัง จ้ำเบ้า ลงไปบนหญ้า.... หญ้าเจ้าชู้ เจ็บ..บบบ มันแทง ติดเต็มกางเกง และต้นขา (ใส่ขาสั้นอ่ะ... เจ็บนะเนี่ย) 
5555..... เสียงหัวเราะ ของคนขับ และผสานต่อด้วย คนเจ็บที่หล่นลงไปเรียบร้อยแล้ว

คนขับ "อ้าว...ลงไปได้ไงเนี่ย..." (ยังมีหน้ามาถาม...) คนเจ็บ ค้อน....
คนเจ็บ "แง ๆ มอเตอร์ไซด์ทำหล่น... เสียงร้องของคนเจ็บ"

เรื่องก็มีเพียงเท่านี้แหละนะ  แต่อยากเล่า ไม่มีภาพประกอบ ขอให้ใช้จิตนาการเอง...

สุดท้ายนี้ ... ฝากข้อคิดไว้ว่า ... ขับขี่มอเตอร์ไซด์ให้ปลอดภัย อย่าทำแฟนหล่น .... อิอิอิิ

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวเกาะเต่า Koh Tao Trip

เกาะเต่า ชุมพร สุราษฎรธานี คุณไปขึ้นเรือได้ทั้งสองจังหวัด แต่การเดินทางของเราสองสาวนั้น เลือกที่จะเดินทางโดยบริษัท เรือเร็วลมพระยาทัวน์ ไม่ใช่สบาย ถูกกว่า หรืออย่างไร แต่เราขี้เกียจเสียเวลาไปหารถ หาเรือ เลยเลือกที่จะซื้อตั๋ว รถต่อเรือ ไปเกาะเต่าเลย

การเดินทางจากกรุงเทพ เราต้องไป check in ที่ออฟฟิค ของ ลมพระยา ที่ตรอกข้าวสาร เวลา 19.30 น. หลัง Check in แล้ว ไปหาข้าวกินก่อนขึ้นรถ แนะนำร้านโจ๊ก ที่หน้าเซเว่น อร่อย มาก ขอบอก หลังจากนั้นแล้วก็ไปขึ้นรถทัวน์ของบริษัทที่หน้าวัด (มีคนนำพาไปขึ้นรถ แต่ให้ขนของเอง ไม่ช่วยยก) รถออกตอน 21.00 น. สภาพรถไม่เก่า ไม่ใหม่ เหมือนรถทัวน์ทั่วไป ไม่มีบริการอาหาร น้ำ บนรถ แอร์ก็เย็นธรรมดา ไม่มาก ไม่น้อย พอตี 1 รถก็จอดพักรถ ให้ลงไปทานอาหาร (ไม่มีเลี้ยง หากินเอง) ง่วงจะตาย ดันปลุกให้ไปกินข้าว พวกเราก็เลยลงไปเข้าห้องน้ำ (สภาพห้องน้ำสะอาดพอใช้)


ตี 4 ถึงท่าเรือเร็ว ลมพระยา ก่อนกำหนด เรือเที่ยวแรก ออกตอน 7.00 น. โดยวิ่งจาก ชุมพร - เกาะเต่า - เกาะพงัน ราคาปกติไปเกาะเต่า 800 บาท ทัวน์ หรือ agent ขาย 850 - 900 บาท ราคาไม่แน่นอน แล้วแต่คุณโชคดีหรือโชคร้าย (พวกเราโชคปานกลาง เลยได้ราคา 850 บาท)

ที่ท่าเรือ ลมพระยา ไปเกาะเต่า มีร้านขายของ กาแฟ ขนมปัง แพงมาก (แนะนำหาไปกินเองดีกว่า เราทานแค่ แซนวิท กับกาแฟ ก็ราคา 120 บาท แล้ว)

เริ่มต้นวันใหม่ โทรศัพท์ที่พกไปเกิดดับสนิท ปิดตัวเอง ตายไป ณ ท่าเรือเร็ว ลมพระยา จังหวัดชุมพร ขอไว้อาลัย มา ณ โอกาสนี้ (แง ๆ แง ดับสนิท ตาย.... เศร้า)

7.00 น. ตรงเวลา นายท่า เปิดให้ check in ขึ้นเรือ ไปหาที่นั่งตามสบาย มีห้อง VIP ชั้นสอง ติดแอร์ มีผลไม้บริการ เพิ่มอีก คนละ 100 บาท มีห้องน้ำในตัว (แต่เราไม่เอา เรามันคนชั้นกลาง ไม่วีไอพี) เลยมานั่งด้านล่าง ติดแอร์เหมือนกัน มีทีวีดู คนเต็มเรือ เรือแล่นไปถึงเกาะเต่าเวลา 10.30 น. พวกเราลงมาโทรหารถจากที่พักให้มารับ ออ...ลืมบอกไปว่าเราพักที่ บ้านคุณหญิง ไฮ ไหม... พวกคุณนาย พัก บ้านคุณหญิง ....????? เป็นห้องพัดลม พักได้ 2 -3 คน มีห้องน้ำในตัว ราคาปกติ 600 - 800 บาท agent เอาไปขาย 850 บาท (เอาพลาดอีกแล้ว ได้ราคา 850 บาท แหะ ๆ โง่ หรือ ซื่อ...เนี่ย)

ห้องพัก บ้านคุณหญิง ไม่ได้อยู่ติดหาด เป็นบ้านสองชั้น สภาพใหม่ เตียงใหญ่ สะอาด มีทีวี ตู้เย็น และห้องน้ำในตัว โอเค..แหละ แต่จริง ๆ อยากพักติดหาด แนะนำ Wind Beach Resort ที่พักติดหาดทรายรี (เกาะเต่า) อาหารอร่อย โดยเฉพาะข้าวผัดทะเล กุ้งตัวใหญ่ โยเกิรต์สด อร่อยมาก ๆ ชอบ กินทุกวันเลยแหละ เบอร์โทรติดต่อที่ 077-456082 ซื้อตรงที่รีสอร์ทเลย ห้องพัดลมราคาถูกสุด 600 บาท agent ขาย 850 บาท เลือกเอาแล้วกันค่ะ

ทริป One Day สำหรับดำน้ำ ก็มีราคาตั้งแต่ 600 - 850 บาท ปกติมักพบในราคา 650 บาท ต่ออีกนิด ได้ 600 บาท (พวกเราสองสาวได้ราคา 600 บาท มีรถรับส่งโรงแรมจ้า) จุดที่ดำน้ำก็มี 4 จุด คือ อ่าวฉลาม หรือ เกาะฉลาม ทางใต้ของเกาะเต่า เช่น อ่าวลึก  อ่าวหินวง และเกาะนางยวน ค่าทัวน์รวม อาหารเที่ยง ค่าเรือ ค่าชูชีพ ค่าหน้ากากดำน้ำ ไม่รวมค่าขึ้นเกาะ ต้องไปเสียอีกคนละ 30 บาท(คนไทย) และถ้าจะเช่า fin เพิ่มค่าประกันอีกคนละ 1000 บาท


ภาพบรรยากาศที่ไปดำน้ำในทริป One Day สภาพทะเล และใต้น้ำ (ตื้น) ของเกาะเต่าในปัจจุบัน ก็เสื่อมโสมลงในระดับหนึ่งแล้ว ความงามยังคงมีปรากฏอยู่ ตามที่เห็น (ภาพจริง ไม่มีการดัดแปลง หรือ แต่งภาพ แต่อย่างใด) สำหรับคนที่ชื่นชอบทะเล การดำน้ำ ก็ยังแนะนำให้ไปเกาะเต่าอยู่ค่ะ ที่อ่าวฉลาม ในทริปนี้มีผู้พบฉลามด้วย ขนาดความยาว 2 เมตร (ใหญ่ไหม) คนที่กลัว ไม่อยากพบ เป็นคนพบ ว่ายน้ำหนีรวดเร็ว บอกว่าใจเต้น กลัวมาก ๆ ส่วนคนที่อยากพบ ว่ายหาแถบตาย ไม่เจอะอ่ะ เซ็ง...เป็ด...


ปะการังที่พบ ก็มักเป็นปะการังกิ่งขาว ที่เขาเรียกว่า ปะการังเขากวาง ใช่ปะ... ดังรูป ไม่ค่อยมีดอกไม้ทะเล มีปลาเยอะอยู่ แต่ไม่พบปลานีโม่ ตัวโปรด...

ส่วนเกาะนางยวน สวยมาก เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัว ที่ดำน้ำ ก็จะเป็นพวกปลาเป็นส่วนใหญ่ ปลาเยอะมาก แต่บรรยากาศดีมาก ๆ เหมือนในภาพที่เห็น


งานนี้ ต้องขอโทษที่ถ่ายภาพมาน้อย มัวแต่จะไปดำน้ำเลย ไม่ค่อยสนใจถ่ายภาพมากนัก แต่สวยมาก ๆ ขอบอก ถ้าจะไปพัก แนะนำไปพักเกาะนางยวนจะดีกว่า สำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ ต้องการพักผ่อนจริง ๆ สงบ เป็นส่วนตัวกว่า เกาะเต่า 


บรรยากาศที่เกาะเต่า ช่วงที่ไปนักท่องเที่ยวก็ยังเยอะพอสมควร แต่เขาบอกว่า เนี่ย น้อยแล้ว เพราะ นักท่องเที่ยว ไปที่เกาะพงัน รอเที่ยว Full Moon Party ต่อกัน เลยออกไปจากเกาะเต่า ในวันที่พวกเรามากัน ชายหาดที่ใกล้ที่พัก ก็คือ หาดทรายรี พวกเราก็เลย เดินเล่น กินข้าว เล่นน้ำ อยู่แถวนี้ ทุกเย็น และเช้า มาตามดูบรรยากาศกันได้เลยจ้า

ภาพชุดนี้ เป็นบรรยากาศตอนเย็น ของวันแรกที่เกาะเต่า ณ หาดทรายรี มาถึง ก็มานั่งเล่นที่ชายหาด ยังไม่รู้จะไปไหน จะทำอะไร เดินเรื่อย ๆ แล้ว ก็ลองถ่ายรูปตอนกระโดดบ้าง เห็นใคร ๆ ก็ชอบถ่าย เลยตั้งกล้อง ลองกระโดด กว่าจะได้นะ ยากมาก ๆ กะ เวลาไม่ค่อยได้ โดดซะเหนื่อย จน เพื่อนที่ไปด้วยกัน มาถ่ายได้ เลยได้มา ขอโชว์หน่อย แหะ ๆ โดด ตัวลอยเชียว ขนาด อ้วน ๆ นะเนี่ย.....

[เกร็ด...ประจำวัน... การเช่ารถที่เกาะเต่า ถ้าคุณเป็นคนไทย จะเช่ายากมาก ค่ามัดจำ 5000 บาท ค่าเช่ามอเตอร์ไซด์วันละ 150 บาท รถมอเตอร์ไซด์ให้เลือกชนิดที่ล้อเป็นล้อวิ่งวิบาก เพราะถนนรอบเกาะ ชัน และลื่น มือสมัครเล่น ห้ามขับ เพราะถ้ารถเสีย ถลอก เป็นรอย คุณต้องจ่าย 100 เท่าของค่าซ่อมจริง ]
 ภาพนี้ ขับมอเตอร์ไซด์ ไปเที่ยวที่ ดุสิตบัญชารีสอร์ท ทางขึ้นชันมาก แต่พอไปไหว ก็เล่นเอา เราคนซ้อน ต้องลงเดิน ตลอดทาง กว่าจะไปถึง เหนื่อยมาก.... ขอบอก .... (มีภาพด้วย แต่อยู่อีกกล้อง เลยไม่มีมายืนยัน แต่ไม่เอาอ่ะ น่าอาย...)


ทางเดินชมวิว สวยมาก และมีที่ให้ลงดำน้ำดูปลาด้วย โอเคเลย ถ้าได้ไปแนะนำให้ไปดูจุดชมวิว ที่ดุสิตบัญชา หมู่บ้านโชคสมชัย


ปล. เตรียมเอาชุดไปว่ายน้ำ ได้ ราคา 200 บาทต่อคน หรือจะดำน้ำดูปลา ก็ฟรีจ้า




 หาดทรายรี เป็นที่จอดรถแท๊กซี่ ไปดำน้ำ ไปเกาะนางยวน จุดเด่น มีต้นมะพร้าว ลำต้นยืนออกมาขวางหาด แต่ยอดตั้งตรงขึ้นไป ดังรูป


ตอนเย็น จะมีเรือเข้ามาจอด เรียงกันเป็นแถว ๆ สวยงามมาก ๆ เลยแหละ ซึ่งคนจอด จอดเก่งมาก จอดเรียงกัน ตรงแนว แล้วเว้นช่องว่าง เท่ากันด้วย เท่ไหมล่ะ
 อันนี้เป็นภาพ ตอนเย็น แสงยามเย็น งดงามมาก ๆ พระอาทิตย์ตก แทบอยากจับมาเก็บลงกระเป๋า กลับบ้าน เอาไปฝากคนรู้ใจ คนที่คิดถึง....


เห็นแล้ว สวยไหม... สวยนะ ... ยังมีรูปอีกมากมาย อยากให้ดู อยากให้เห็น แต่คงไม่เท่า ที่เราจะเชิญชวน ให้คุณออกไปเที่ยวกันเองหรอก ไปทะเลกันดีกว่า.... อ่าวไทย ทะเลไทย เกาะเต่า เกาะนางยวน...


ภาพสุดท้าย ทิ้งท้ายไว้...... ไปเมื่อไหร่ อีเมล์บอกด้วย ฝากข้อความไว้ เราจะได้คุยกัน....